คิมฮีชอล อัพเดททวิตเตอร์เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคมที่ผ่านมา กล่าว "ได้โปรอย่าไล่ตามผมเลยทั้งที่หน้าบ้านและหน้าสำนักงาน ผมคิดว่าพอผมอายุ 30 แล้วผมจะใจเย็นขึ้น แต่พอเอาเข้าจริงๆมันไม่ใช่เลย เนื่องจากผมยังมีผลกระทบเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทุกครั้งที่ต้องขับรถหนีด้วยการเอาชีวิตมาเสี่ยงมันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก" เสริม "แม้ว่าน่าผิดหวัง แม้ว่าต้องรู้ว่าพอได้แล้ว แต่ว่าผมมีเพียงชีวิตเดียว และผมจะไม่ยอมเสียมันไป ผมผิดเองที่ไม่เข้าใจอะไรมากพอ"
คิมฮีชอล กล่าวต่อ "แล้วก็คุณลุงครับ เลิกจ้องแต่จะดูดเงินของแฟนคลับต่างประเทศด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องเถอะครับ การหาเงินจากพวกเขาแบบนั้นมันเหมือนพวกแก๊งอันธพาลเลยครับ ผมอยากให้ข้อความนี้ทำให้ไม่ต้องมีใครกลายเป็นเหยื่อพวกเขาอีกนะ" เขากล่าว
เขาเผยต่อ "อีก 1 ปีหลังจากนี้ผมจะอยู่เงียบๆโดยไม่ทวีตข้อความอะไรอีก เจอกันอีก 1 ปีข้างหน้านะครับ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อวยพรวันเกิดผม" เขากล่าว
โดยข้อความเหล่านี้ คิมฮีชอล ได้ระบายความในใจหลังจากที่เขาโดนซาแซงติดตามเขาอย่างไม่ลดละ ซึ่งก่อนหน้านี้คิมฮีชอลเคยต้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จากปัญหาการถูกตามโดยซาแซง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 คิมฮีชอลเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่สิงคโปร์ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อปี 2006 เขาก็เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างหนัก จนต้องฝังเหล็กในขามากกว่า 7 ชิ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาได้รับผลกระทบทางจิตใจทางรถยนต์ที่ต้องใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความเสี่ยงหลังจากถูกไล่ลาโดยซาแซงและซาแซงแท็กซี่
แฟนคลับกล่าว "แค่เห็นข้อความก็สัมผัสได้ถึงความยากลำบากที่เขาประสบมาเลย" "เขาต้องทนมานานขนาดไหนเนี่ย" "อยากให้ข้อความนี้พวกซาแซงรู้สึกอะไรบ้าง" "ชีวิตคนนึงต้องอยู่ยากถึงขนาดนี้...ดูเหมือนจะระเบิดออกมาแล้วสินะ" ต่างกล่าวด้วยความเห็นใจ