หญิงชิคาโกยื่นฟ้องร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 175 ล้านบาท หลังพบว่ากาแฟเย็นแก้วใหญ่มีการใส่น้ำแข็งมากเกินไป ทำให้ได้รับปริมาณน้ำกาแฟน้อยกว่าที่ร้านโฆษณาไว้เกือบครึ่ง
วันที่ 2 พฤษภาคม 2559 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยน รายงานว่า สเตซี่ พินคัส หญิงชาวเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ยื่นฟ้องร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ ต่อคณะลูกขุนศาลอิลลินอยส์ ฐานหลอกลวงผู้บริโภค เป็นเงินมูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 175 ล้านบาท หลังพบว่าเครื่องดื่มกาแฟเย็นแก้วใหญ่ที่เธอสั่งนั้น มีปริมาณน้ำกาแฟอยู่จริงเพียงครึ่งแก้วและส่วนที่เหลือเป็นก้อนน้ำแข็ง ทำให้รู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ และต้องจ่ายค่ากาแฟแพงเกินจริง
ในเอกสารที่เธอยื่นฟ้องจำนวน 29 หน้า ระบุว่า ลูกค้าที่สั่งเครื่องดื่มเย็นแก้วใหญ่ (Venti) จะได้รับปริมาณเครื่องดื่มเพียง 14 ออนซ์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นปริมาณที่น้อยกว่าที่ระบุในโฆษณาเกือบครึ่งหนึ่ง
โดยปกติแล้ว ขนาดแก้วเครื่องดื่มของร้านสตาร์บัคส์ มีทั้งสิ้น 4 ขนาด ได้แก่ Tall (12 ออนซ์) Grande (16 ออนซ์) Venti (24 ออนซ์) และ Trenta (30 ออนซ์) ซึ่งลูกค้าหญิงรายนี้ระบุว่า ลูกค้าที่สั่งกาแฟขนาด Venti นั้น ต่างก็หวังว่าจะได้รับปริมาณเครื่องดื่มที่ 24 ออนซ์ ตามที่บริษัทระบุเอาไว้
นอกจากนี้ พินคัสยังร้องเรียนในประเด็นราคาเครื่องดื่ม ที่ทางบริษัทกำหนดให้เครื่องดื่มเย็นมีราคาสูงกว่าเครื่องดื่มร้อนมาก ทั้ง ๆ ที่มาในแก้วขนาดเดียวกัน ซึ่งนั่นทำให้เธอคิดว่า สตาร์บัคส์กำลังพยายามหากำไรที่มากกว่าปกติ ด้วยการขายเครื่องดื่มเย็นในราคาแพง
ด้าน เจมี่ ไรลีย์ โฆษกของสตาร์บัคส์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงประเด็นดังกล่าวว่า การยื่นฟ้องดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระ ที่ไม่มีคุณค่าพอสำหรับนำมาถกเถียงกันด้วยซ้ำ
โดยเขาระบุว่า ลูกค้าของสตาร์บัคส์จริง ๆ จะเข้าใจว่า น้ำแข็งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องดื่มชนิดเย็นทุกชนิด และหากลูกค้าท่านใดไม่พอใจ พนักงานก็ยินดีที่จะทำแก้วใหม่ให้ทันที
นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ของสตาร์บัคส์ ยังแอบจิกกัดต่อประเด็นดังกล่าวว่า คุณสามารถลดหรือเพิ่มน้ำแข็งในเครื่องดื่มเย็นของสตาร์บัคส์ได้ทุกแก้วอีกด้วย
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Starbucks