หลาน-ทนาย เปิดคลิปไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ชายพิการถูก 6 วัยรุ่นฆ่า เผยโจ๋ไม่กลัวตำรวจ เดินเข้าหา ขณะที่ตำรวจบอกกลุ่มผู้ต้องหาให้ไปโรงพยาบาล ชี้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่หลานชายน้ำตาคลอ วอนแจ้งข้อหาหนักเจตนาฆ่า
เป็นประเด็นร้อนที่ใครหลายคนให้ความสนใจ สำหรับข่าว โจ๋โหด 6 คนรุมทำร้าย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการวัย 36 ปี จนเสียชีวิต เหตุเพราะไปแซวเรื่องขาเป๋ แต่ผู้ตายไม่พอใจด่าทอกลับ สุดท้ายยกพวกมารุม ไม่ฟังแม้มีคนมาห้าม แทงคอชายพิการจนเสียชีวิต
ล่าสุดวันที่ 3 พฤษภาคม 2559
รายการขยายข่าวทางช่อง TNN ก็ได้เชิญ คุณเมธัส ผลประเสริฐ หลานชาย และคุณอนันตชัย ไชยเดช ทนายความที่เห็นเหตุการณ์ มาไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นยันจบ พร้อมกับเผยคลิปในร้านที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนให้ได้ชมกันด้วย
โดย คุณเมธัส เล่าว่า เหตุการณ์เปิดขึ้นช่วง 08.30 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งตนเพิ่งอาบน้ำเสร็จและเตรียมตัวไปอบขนม ส่วนน้าเกียรติเข้ามาในร้านและบอกว่า มีวัยรุ่นขับรถปาดหน้าและแซวเรื่องที่น้าเกียรติขาไม่ดี น้าเกียรติโมโหเลยขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปว่า และตอนนั้นก็ขอโทษขอโพยกันเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่น้าเกียรติกลับมาได้พักหนึ่ง ประมาณ 10 นาที จู่ ๆ ก็มีวัยรุ่น 4 คน ขี่มอเตอร์ไซค์ 2 คัน บุกเข้ามาในร้านหมายจะเข้ามาทำร้าย ซึ่ง 1 ใน 2 คนนั้นมีอาวุธมีดมาด้วย น้าเกียรติเห็นท่าไม่ดีเลยเข้าไปเอามีดที่เขี่ยขนมปังมาป้องกันตัว พอวัยรุ่นเห็นก็กระเจิงออกไป จากนั้น 1 ในลูกตำรวจก็บอกว่า ไปหยิบปืนใต้เบาะเลย ตนได้ยินดังนั้นเลยเดินไปนั่งค่อมมอเตอร์ไซค์ของพวกนั้นเพราะกลัวว่าจะมา หยิบปืน ซึ่งตอนนั้นก็เจรจาไปด้วย บอกให้พวกเขาใจเย็น ๆ มีอะไรก็คุยกัน และตอนนี้ก็โทรศัพท์หาตำรวจแล้วเดี๋ยวก็มา แต่กลุ่มวัยรุ่นกลับตอบว่า เรียกมาเลย พ่อก็เป็นตำรวจไม่กลัว จากนั้นพวกกลุ่มวัยรุ่นก็ไปซื้อบุหรี่มาสูบและโทรศัพท์เรียกพวก ตนนั่งตรงนั้นได้ยินทุกอย่าง และพยายามเจรจากับเขาไปด้วย เพราะบ้านเราค้าขายไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร
อย่างไรก็ดี จากคำบอกเล่าของ คุณเมธัส สอดคล้องกับภาพกล้องวงจรปิดในร้าน จะเห็นได้ว่า นายเมธัสกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโต๊ะ จากนั้นมีวัยรุ่นสองคนเข้ามา แล้วคุณสมเกียรติก็เดินกะเผลกเข้าไปหยิบมีด ก่อนที่วัยรุ่นจะหนีออกไป ก่อนที่จะกลับมาและหยิบมีดอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นคุณเมธัสใช้เวลาในการเจรจาประมาณ 11 นาที
ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน
- น้าเกียรติเดินเข้ามาในร้าน
- มีวัยรุ่นตามมา
- น้าเกียรติถือมีดออกไป
- 11 นาทีให้หลัง น้าเกียรติ เดินเข้ากลับมาในร้าน
- และถือมีดไปอีกครั้ง
คุณ เมธัส เล่าต่อว่า ส่วนสาเหตุที่น้าเกียรติหยิบมีดออกไปอีกรอบนั้น เป็นเพราะว่ากลุ่มวัยรุ่นได้พาพวกมา แล้วก็ปรี่มาทำท่าจะฟันตนและชาวบ้านอีกคนที่ช่วยห้ามปรามและเจรจา น้าจึงออกมาเพราะกลัววัยรุ่นจะฟันตน และพอกลุ่มวัยรุ่นรู้ว่าคนที่มีเรื่องไม่ใช่ตนก็บุกเข้าไปที่ร้านเลย จากนั้นก็เกิดการปะทะกัน ซึ่งน้าเกียรติใช้มีดป้องกันตัว ไม่ได้หมายจะฟัน เพราะขาก็ไม่ดี จะเดินก็กะเผลก เลยใช้มีดกวัดแกว่งให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาไม่ได้เท่านั้น ส่วนตนก็ตะโกนร้องขอให้หยุด วิงวอนว่าอย่าทำร้าย ๆ ก็ไม่มีใครหยุด
ขณะที่ คุณทนายอนันต์ชัย เล่าว่า ตนออกมาเห็นจังหวะที่น้าเกียรติอยู่นอกร้านแล้ว อยู่ตรงเสาไฟฟ้าแรงสูงของไทยพาณิชย์ ตอนนั้นน้าเกียรติใช้มีดกวัดแกว่งและพยายามหนีมากกว่า น้าเกียรติเอามีดแกว่ง ๆ แล้วก็ค่อยกระเถิบเข้าไปในอู่ซ่อมรถที่อยู่ตรงข้ามร้านขนมปัง คาดว่าน่าจะให้คนในอู่มาช่วย แต่ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในอู่ กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่รามือง่าย ๆ เอาก้อนหินและอิฐเขวี้ยงใส่ โชคดีที่น้าเกียรติและเมธัสหลบทัน ซึ่งตนเห็นเมธัสยกมือขอร้องให้หยุดตลอดเวลา และเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง วิ่งเข้ามาบอกว่า เอามันเลย ๆ เอามันให้ตายเลย ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของคนที่หยิบก้อนอิฐปา และหลังจากที่คนตายนอนแน่นิ่งไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังตะโกนด่าเลย
คุณ เมธัส กล่าวเสริมว่า ตอนแรกตนให้ปากคำบอกว่ามือมีดมี 3 คน แต่จริง ๆ แล้วจากการดูคลิปอย่างละเอียดมีมือมีด 4 คน มีมีดด้วยกัน 2 เล่ม แต่ผลัดกันถือ เพราะจังหวะหนึ่งที่หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นโดนคมมีดจากน้าเกียรติ ก็ได้เอามีดส่งต่อให้อีกคน จุดไคลแมกซ์อยู่ที่ ตนยืนอยู่กับน้าเกียรติพยายามจะเจรจาตลอดเวลา บอกตลอดว่าหยุดเถอะครับ ค่อย ๆ พูด แค่นี้เขา (น้าเกียรติ) ก็บาดเจ็บเยอะแล้ว ซึ่งตอนนั้นมีวัยรุ่นที่ประจันหน้ากัน 2 คน คือคนเสื้อขาวและเสื้อลายดอก เขาพูดกับตนว่า มึงออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นโดนด้วย แต่ตอนไม่ออกพยายามยืนอยู่ข้างน้าเกียรติแบบไม่ห่าง จังหวะนั้นตำรวจมาพอดี มาพร้อมเสียงหวอดังลั่น ทำให้ทุกคนหันหน้าไปมองตำรวจ แต่ช่วงนั้นหนึ่งในสองคนใช้มีดแทงเข้าที่ลำคอของน้าเกียรติ มีดผ่านหน้าตนไป และน้าเกียรติก็ล้มนอนแน่นิ่งไป
คุณเมธัส เล่าต่อว่า จากสภาพศพน้าเกียรติถูกแทงทั้งหมด 8 แผล และระหว่างที่น้าเกียรติล้มไปแล้ว ก็ยังมีคนรุมเขวี้ยงก้อนหินใส่อีก จนกระทั่งตำรวจยิงปืนให้วางอาวุธ.. และหากดูจากคลิปจะเห็นได้ว่า กลุ่มวัยรุ่นไม่มีความเกรงกลัวตำรวจ เพราะเดินเข้ามาหาตำรวจเลย ซึ่งมีตำรวจนายหนึ่งที่ชักปืน บอกกับคนที่โดนฟันว่า "ไปโรงบาล"
ทาง ด้านทนายเสริมว่า จุดตรงนี้ของคลิปแสดงให้เห็นว่า ตำรวจรู้จักกับผู้ต้องหา ซึ่งผู้กระทำความผิดทำผิดต่อหน้า ต้องจับกุมไม่ใช่ให้ไปโรงพยาบาล นอกจากนี้ คุณเมธัส กล่าวต่อว่า ขณะที่ตำรวจรวบตัวคนที่เหลือ ส่วนตนนั้นพาน้าเกียรติไปโรงพยาบาล มีหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นพูดระหว่างควบคุมตัวว่า เดี๋ยวมึงจะโดนด้วย และผู้หญิงที่บอกว่าเอาเลย ๆ พูดว่า ถ้าผัวกูติดคุกมึงโดนหมดแน่ ส่วนน้าเกียรตินั้น ตนคิดว่าเขาเสียตั้งแต่ในที่เกิดเหตุ คำพูดสุดท้ายที่เขาพูดกับตน เขาพูดว่า เม ๆ น้าหายใจไม่ออก ก่อนที่จะนิ่งไป
อย่างไรก็ตาม ทนายได้กล่าวว่า เรื่องนี้ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาคือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีดโดยไม่ มีเหตุสมควร ซึ่งตนเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์และเป็นพยานในเรื่องนี้ อยากจะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากให้แจ้งข้อหาเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรอง, บุกรุกเคหะสถานโดยใช้กำลัง ส่วนผู้หญิงที่กล่าวว่า เอามันให้ตาย ก็อยากให้ดำเนินคดีข้อหาเป็นผู้สนับสนุนยุยงให้คนกระทำความผิด ซึ่งตรงนี้ โทษของคดีมันต่างกัน หากดำเนินคดีตามที่ตำรวจแจ้งไว้แต่แรก โทษก็จะจำคุก 15-20 ปี แต่ถ้าเป็นข้อหาเจตนาฆ่า โทษเดียวเลยคือประหารชีวิต
ท้ายนี้ นายเมธัส กล่าวว่า อยากวิงวอนทั้งผู้สื่อข่าว ผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ได้เห็นข่าวและเห็นคลิป ให้ความเป็นธรรมกับน้าเกียรติด้วย ซึ่งน้าเขาเป็นคนดี มีลูกต้องเลี้ยงดู คนหนึ่ง ม.1 คนหนึ่ง ป.5 แล้วน้าเกียรติก็มีแม่วัยชราที่ต้องดูแลด้วย ซึ่งอยากให้ดำเนินคดีกลับคนกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด
ภาพและข้อมูลจาก รายการขยายข่าว ช่อง TNN