ความคืบหน้าคดี เจนภพ วีรพร ขับเบนซ์ชนฟอร์ด ใช้ความเร็วขณะชน 215-257 กม./ชม. แจ้งข้อหาเพิ่ม 4 ข้อหา ยันมีหลักฐานเอาผิดแน่น พร้อมทั้งจ่อลงโทษทางวินัย 2 ตำรวจ หลังพบบกพร่องในการทำงาน
วันที่ 29 มีนาคม 2559 พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่ นายเจนภพ วีรพร ขับรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด ทำให้ 2 นักศึกษาปริญญาโทเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 ณ ห้องประชุมนันทโชติ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พล.ต.อ. พงศพัศ กล่าวหลังการประชุมว่า กองพิสูจน์หลักฐานสรุปความเร็วของรถเบนซ์ขณะขับชนรถฟอร์ดอยู่ที่ประมาณ 215-257 กม./ชม. โดยมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม 4 ข้อหา คือ
1. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
2. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
3. เสพสารเสพติดให้โทษ หรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตหรือประสาท
4. เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ ต่อจิตประสาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานที่สามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ทุกข้อกล่าวหาทั้งในคดีเก่าและคดีใหม่ ส่วนเรื่องอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องหานั้นยังต้องเก็บเป็นความลับของสำนวนการสอบสวน ซึ่งศาลได้อนุญาตฝากขังผู้ต้องหารอบ 2 อีก 12 วัน โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 10 เมษายน และขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามในส่วนของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา ได้ข้อสรุปว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมีความบกพร่องในการทำงาน ซึ่งจะลงโทษทางวินัยตำรวจ 2 นายที่เกี่ยวข้องต่อไป