หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตำนาน "ลอยกระทง" ลอยแบบไหนให้มีแต่ความเฮง และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม !  (อ่าน 1136 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2499



วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง
เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง..



บทเพลงที่พวกเราคนไทยคุ้นหูกันเป็นอย่างดี
เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่เป็นเดือนแห่งเทศกาลลอยกระทง



สำหรับปีนี้ วันลอยกระทง ก็ตรงกับวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. 64  นั่นเอง และหลังจากที่รัฐบาลประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลายสถานที่สำคัญๆ ก็เริ่มกลับมาจัดงานอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19 แต่ก่อนที่จะถึงเทศกาลลอยกระทง พี่ โปร ขอพาเพื่อนๆ ทุกคนย้อนกลับไปถึงต้นกำเนิด และที่มาของเทศกาลลอยกระทงกันหน่อยดีกว่า ~






จากประวัติศาตร์วิถีชีวิตของคนไทยเราเรียกได้ว่าผูกพันกับสายน้ำมาโดยตลอด ไม่ว่าจะใช้ดื่ม ใช้กิน ใช้เพื่อทำเกษตรกรรม หรือเพื่อเป็นเส้นทางในการเดินทางไปมาหาสู่กัน ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณที่นับถือผีสางเทวดา เค้าก็จะเชื่อว่าในน้ำจะมี 'พระแม่คงคา' ที่เป็นเหมือนเทพที่คอยดูแลและคุ้มครองสายน้ำอยู่ จึงเกิดเป็นประเพณีลอยกระทงขึ้น จุดประสงค์ก็เพื่อขอพรและขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่เราเคยได้ทำในสิ่งที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือทำในสิ่งที่ไม่ดีต่อสายน้ำลงไปนั่นเอง






ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย เริ่มขึ้นครั้งแรกตอนไหน ?

ประเพณีลอยกระทง นับเป็นประเพณีไทยที่คนไทยเราสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนว่า ประเพณีลอยกระทงเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไหร่ บ้างก็ว่าอาจจะเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยในสุโขทัยจากหลักฐานตามศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง ว่าในสมัยนั้นท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้เป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นกระทงขึ้น โดยใช้ดอกโคทมหรือดอกบัวบาน มาประดับด้วยเทียนประทีป และนำไปลอยตามแหล่งน้ำในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง โดยในสมัยนั้นเรียกประเพณีนี้กันว่า พิธีจองเปรียง





ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 และ 2 ของกรุงรัตนโกสินทร์ ดอกบัวบานเริ่มเป็นของหายาก จึงได้เปลี่ยนเอาต้นกล้วยมาทำเป็นฐานของกระทงและใช้ใบตองมาพับเลียนแบบกลีบดอกบัว และประดับด้วยดอกไม้มงคลเพื่อความสวยงาม และใช้กันมายาวนานจนถึงทุกวันนี้





"ประเพณีลอยกระทง" ของแต่ละภาคในประเทศไทย





ประเพณีลอยกระทงของภาคเหนือ

เทศกาลลอยกระทงของภาคเหนือ จะมีไ​ฮไลท์สำคัญ คือ การปล่อยโคมลอย หรือประเพณียี่เป็งที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ถือเป็นการลอยกระทงแบบล้านนา พี่ โปรโมชั่น บอกเลยว่าถ้ามีโอกาสได้ไปลอยกระทงที่เชียงใหม่จะต้องไปสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนที่มีโคมไฟนับร้อยๆ ดวงลอยสว่างไสวอยู่บนท้องฟ้าให้ได้

นอกจากนี้ที่จังหวัดตาก ยังมีประเพณีกระทงสาย เป็นการนำกระทงใบเล็กๆ มาเรียงให้ลอยต่อกันจนเป็นสายยาว และอีกประเพณีที่พลาดไม่ได้ เพราะเค้าเล่นใหญ่จัดใหญ่ทุกปี ต้องยกให้ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ ที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้นับว่าเป็นต้นกำเนิดประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยเลย เพราะมีทั้งกระทงทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ การเล่นโคมชักโคมแขวน และขบวนแห่นางนพมาศเป็นไฮไลท์ของงาน





ประเพณีลอยกระทงของภาคกลาง

ถ้าพูดถึงงานลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่ของกรุงเทพก็ต้องที่วัดภูเขาทอง ที่ในแต่ละปีก็จะจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ยาวนาน 7-10 วันเลยทีเดียว แสง สี เสียงอลังการมาก และยังมีการละเล่นพื้นเมืองหลากหลาย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าปี 2564 นี้ ทางวัดได้ประกาศงดจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อีกงานที่พี่ promotion บอกเลยว่าพลาดไม่ได้เลย คือ งานลอยกระทงกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จัดขึ้นทุกปีที่อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ภายในงานนอกจากเราจะได้สัมผัสบรรยากาศการลอยกระทงแบบดั้งเดิมแล้ว เราจะได้พบกับการแสดงและการละเล่นพื้นเมืองที่หาชมได้ยากอีกด้วย สำหรับปีนี้ยังไม่ได้มีประกาศอย่างชัดเจนว่าจะมีการจัดงานหรือไม่ ถ้าหากใครสนใจก็อย่าลืมติดตามข่าวสารกันอีกทีนะ







และที่อัมพวา จังหวัดสมุทรสาคร ก็ยังมีประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย โดยใช้วัสดุธรรมชาติอย่างกาบกล้วยที่นำมาฉีกเป็นแผ่นๆ ประดับด้วยดอกไม้ จากนั้นก็จุดธูปปล่อยกระทงให้ไหลเป็นสายต่อกัน เป็นการทำกระทงที่เรียบง่ายแต่สร้างความสวยงามได้ไม่แพ้กระทงแบบอื่นๆ เลย







ประเพณีลอยกระทงของภาคอีสาน

ประเพณีลอยกระทงที่เป็นประเพณีสำคัญของภาคอีสาน นั่นก็คือประเพณีไหลเรือไฟ ที่จังหวัดนครพนม เป็นการนำหยวกกล้วย ไม้ไผ่ หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้มาขึ้นโครง และตกแต่งให้เป็นรูปต่างๆ เช่น พญานาค ที่สำคัญภายในเรือยังมีการใส่ข้าวสาร ข้าวต้มมัด หรือสิ่งของที่ต้องการบริจาคใส่ไปกับเรือด้วย และจุดไฟปล่อยให้ไหลไปตามสายน้ำ เพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคานั่นเอง







ประเพณีลอยกระทงของภาคใต้

การลอยกระทงของภาคใต้ จะใช้หยวกมาทำเป็นแพ เพื่อบรรจุเครื่องอาหาร พร้อมประดับด้วยธงทิว ภายในบรรจุดอกไม้ ธูปเทียน เงิน และเสบียงต่างๆ ตามความเชื่อของคนในท้องถิ่น แล้วจึงนำไปลอยตามสายน้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การลอยกระทงของภาคใต้จะไม่ได้อิงตามวันลอยกระทงเท่านั้น แต่จะลอยเมื่อมีโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ เรียกได้ว่า เป็นการลอยเพื่อสะเดาะเคราะห์นั่นเอง





ลอยกระทงเสริมดวง ลอยยังไงให้ดวงปัง !

นอกจากจะเป็นการขอขมาพระแม่คงคาแล้ว การลอยกระทงยังเป็นเหมือนการอธิษฐานขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดยเชื่อกันว่าถ้าใส่สิ่งของต่างๆ ที่เป็นตัวแทนของการนำโชค หรือของเสริมดวงลงไปในกระทง จะช่วยให้ได้พบเจอแต่เรื่องดีๆ หรือจะใส่สิ่งของที่เป็นตัวแทนของลางร้าย เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่ไม่ดีให้ลอยไปพร้อมกับกระทงก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกธรรมเนียมประจำเทศกาลเลย มาจ่ะ! เหล่าสายมูทั้งหลาย พี่ promotions จะมาบอกให้ว่าต้องใส่อะไรในกระทงเพื่อเสริมดวงให้ปังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ วันนี้ปันโปรมีทริคมาฝาก





เงินเหรียญ

เชื่อกันว่าการใส่เงินเหรียญให้ลอยไปพร้อมกับกระทง จะช่วยให้เจ้าของกระทงมีแต่ความร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา โดยวิธีการใส่เหรียญไม่ใช่ว่าจะใส่เหรียญแบบไหนก็ได้ด้วยนะ เค้ามีวิธีการใส่เพื่อเสริมเรื่องเงินโดยเฉพาะ ตามนี้เลย

ผู้ชาย : ใส่เหรียญ 2 บาท 4 เหรียญ / เหรียญ 25 สตางค์ 4 เหรียญ
ผู้หญิง : ใส่เหรียญ 2 บาท 4 เหรียญ / เหรียญ 50 สตางค์ 2 เหรียญ


ข้าวสาร 1 กำ

เชื่อกันว่าการใส่ข้าวสาร 1 กำ ไปในกระทง จะช่วยเสริมดวงเรื่องความรัก แฟนรักแฟนหลง และเปย์ให้แบบไม่อั้น ไม่โดนทิ้งโดนเทให้เจ็บหัวใจด้วย



ข้าวตอก 1 กำ

วิธีนี้เหมาะกับคนทำมาค้าขาย หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการเพิ่มยอดขายให้ปังๆ สามารถใส่ข้าวตอก  1 กำมือ (ข้าวสารที่นำไปคั่วจนแตกเป็นดอกคล้ายๆ ป๊อปคอร์น)



ดอกบานไม่รู้โรย 8 ดอก

อยากให้ความรักครั้งนี้เป็นรักที่มั่นคงยืนยาว ก็ต้องใส่ดอกบานไม่รู้โรยกันไปเลย ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมให้ความรักยืนยาวเหมือนกับชื่อของดอกบานไม่รู้โรย และที่สำคัญต้องใส่จำนวน 8 ดอกเท่านั้น ห้ามขาด ห้ามเกิน !



ดอกรัก 14 ดอก

การใส่ดอกรักลงในกระทงมีความเชื่อว่าช่วยเสริมดวงด้านความรัก ให้เจอความรักดีๆ เจอคนรักหรือคู่ครองที่ดีได้ เพราะดอกรักเป็นเหมือนดอกไม้แห่งความบริสุทธิ์ เปรียบเสมือนความรักที่บริสุทธิ์นั่นเอง



ดอกกล้วยไม้ 15 ดอก

ต้องการเสริมดวงเรื่องสุขภาพให้แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยทั้งทางกายและทางใจ ให้ประดับดอกกล้วยไม้ 15 ดอกลงไปในกระทง นอกจากจะได้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยเสริมดวงได้ด้วย



ดอกบัว 5 ดอก

วิธีนี้เหมาะสำหรับน้องๆ นักเรียนนักศึกษาที่อยากเสริมดวงเรื่องการเรียนให้ผลการเรียนผลสอบเป๊ะปังโดยเฉพาะ  สามารถประดับกระทงด้วยดอกบัว 5 ดอกได้นะ เพราะดอกบัวเป็นดอกไม้แห่งสติปัญญานั่นเอง

ถึงแม้ว่าเราจะลอยกระทงเพื่อเสริมดวง ใส่ดอกไม้มงคล หรือสิ่งของเสริมดวงไปก็ตาม แต่อย่าลืมกันว่าการที่เราจะพบเจอกับเรื่องดีๆ ได้นั้น ต้องเกิดจากการกระทำของเราก่อนด้วยนะ เพราะการกระทำในปัจจุบันย่อมส่งผลต่ออนาคตของเราทั้งนั้น




เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน

 





อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>> เปิดตำนาน 'เทศกาลลอยกระทง'




ลอยกระทงเพื่อขอขมาพระแม่คงคา
หรือเรากำลังสร้างปัญหาทางน้ำให้พระแม่คงคาหนักใจกว่าเดิม ?






จริงๆ เรื่องนี้เป็นประเด็นกันมาทุกปีเลย การที่เราลอยกระทงกันในแต่ละปีเพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา และปล่อยเรื่องราวที่ไม่ดีให้ออกไป พร้อมกับรักษาวัฒนธรรมที่ดีงาม ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งนี่อาจจะเป็นการซ้ำเติมพระแม่คงคา และก่อให้เกิดปัญหาเรื่องขยะ และมลภาวะทางน้ำหรือเปล่า ? แต่จริงแล้วๆ ก็ยังพอมีแนวทางที่เราจะยังสามารถรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ไปพร้อมๆ กับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อยู่เช่นกัน

 

1 ครอบครัว 1 กระทง

วิธีนี้นอกจากจะช่วยลดจำนวนกระทงที่กลายเป็นขยะแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ด้วย



เลือกกระทงให้เหมาะสมกับสถานที่

เช่น ถ้าแหล่งน้ำตรงนั้นมีปลาชุกชุม ก็สามารถเลือกใช้กระทงที่ทำจากขนมปัง เพื่อที่กระทงจะได้ไม่เกิดเป็นขยะเน่าเสียต่อไป



ลอยกระทงออนไลน์

เป็นอีกช่องทางการลอยกระทงที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ยิ่งช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 และทุกคนยังต้องรักษาระยะห่างทางสังคมแบบนี้ การลอยกระทงออนไลน์ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เราสามารถเลือกสถานที่ เลือกประเภท และวัสดุของกระทงที่เราต้องการได้ตามใจ แถมยังใส่คำอธิษฐานได้ด้วย ทีนี้เราก็จะสามารถลอยกระทงได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะสร้างขยะเพิ่มอีกต่อไป





พิกัดลอยกระทงออนไลน์ ตามไปช่องทางเหล่านี้ได้เล้ย~


Sanook : https://season.sanook.com/loykrathong/play/%20

Mthai : https://mthai.com/loykrathong/%20

Kapook : https://loykratong.kapook.com/online/

The Old Siam : https://theoldsiam.co.th/loykrathong%20



สำหรับเพื่อนๆ ที่ปีนี้ตั้งใจว่าจะไปลอยกระทงกันที่ริมน้ำ อย่าลืมรักษาระยะห่างและใส่แมสก์ให้เรียบร้อยด้วยนะ เพราะเชื้อยังอยู่รอบตัวจริงๆ และอย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัย และการเกิดอุบัติเหตุตอนปล่อยกระทงลงน้ำกันด้วยน้า ที่สำคัญลอยกระทงปีนี้มีมาตรการออกแล้วด้วยว่าห้ามปล่อยโคมไฟและจุดพลุเด็ดขาด ถ้าฝ่าฝืนมีโทษปรับถึง 60,000 บาทเลยนะ และสุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนเอนจอยกับเทศกาลลอยกระทงจ้า 


ขอขอบคุณที่มา : wikipedia.com, culture.go.th, bangkokbiznews.com, mgronline.com