Social Distancing
"ยิ่งห่างกัน ยิ่งปลอดภัย"
หลังจากที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายคนคงอาจได้ยินคำว่า Social Distancing กันอยู่บ่อยๆ แล้วก็อาจจะเกิดความสงสัยว่าจริงๆ แล้วคำนี่มันมีที่มาที่ไปยังไง ห่างกันแล้วจะช่วยหยุดการแพร่ระบาดของโควิดได้จริงมั้ย? ต้องห่างกันซักเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าระยะปลอดภัย วันนี้ พี่ โปร มีคำตอบมาให้แล้ว~Social Distancing คืออะไร
Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นการสร้างระยะห่างของเราออกจากสังคม เช่น กักตัวเองอยู่บ้าน, ยืนหรือนั่งโดยเว้นระยะจากผู้อื่น, ยืนในลิฟต์ให้ตรงสัญลักษณ์ที่ติดไว้ เป็นต้น ซึ่ง Social Distancing ถือว่าเป็นมาตรการทางสาธารณสุขอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่เชื้อของโรคติดต่อ
Social Distancing มีที่มายังไง ?
Social Distancing เคยถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1918-1920 เพื่อยุติการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสเปน (Spanish Flu) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน ที่เกิดจากเชื้อไวรัส H1N1 มีประชากรโลกกว่า 1 ใน 4 ติดไข้หวัดชนิดนี้และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50- 100 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นโรคระบาดที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุดของประวัติศาสตร์โลก แล้ว Social Distancing มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Spanish Flu ยังไง ?
ตามข้อมูลที่ พี่ promotion ค้นมานั้นปรากฏเหตุว่าในขณะนั้นอยู่ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสเปนด้วย หลายๆ เมืองในสหรัฐมีการจัดเดินขบวนพาเหรดเพื่อประชาสัมพันธ์การขายพันธบัตรเสรีภาพ (Liberty Bond) ร่วมไปถึงเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อไวรัสไปแล้วกว่า 600 คน แต่หัวหน้าเมืองตัดสินใจเดินหน้าขบวนพาเหรดต่อไปแบบโนสนโนแคร์ ในขณะเดียวกันที่เมืองเซนต์หลุยต์ รัฐมิสซูรีเลือกที่จะยกเลิกขบวนพาเหรดและจำกัดการชุมนุมในที่สาธารณะ
หลังจากนั้น 1 เดือน เมืองฟิลาเดลเฟียมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 คน กลับกันที่เมืองเซนหลุยส์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 700 คนเท่านั้น และจากการสำรวจในเมืองอื่นๆ ที่มีการสั่งห้ามชุมนุมในที่สาธารณะ, การสั่งปิดโรงหนัง, โรงเรียน, โบสถ์หรือสถานที่ๆ มีการรวมตัวของคนหมู่มาก ก็พบว่าเมืองเหล่านั้นมีอัตราการเสียชีวิตที่น้อยลง
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเว้นระยะห่างในสังคมเพื่อยุติการแพร่ระบาดของไวรัส และเป็นเหมือนบทเรียนสำคัญให้เราว่าทำไมถึงต้องนำมาตรการนี้กลับมาใช้อีกครั้งกับไวรัสโควิด-19 คำแนะนำในการทำ Social Distancing
1.งดออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น แค่เราก้าวขอออกจากบ้านก็มีความเสี่ยงแล้ว ไวรัสโควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงและยังติดต่อได้ง่าย เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผู้คนที่เราพบเจอระหว่างทางมีใครติดไวรัสแล้วบ้าง? เพราะฉะนั้น พี่ โปรโมชั่น แนะนำว่าการอยู่บ้านปลอดภัยกับตัวเราเองที่สุด และยังเป็นการยับยั้งการแพร่เชื้อด้วย 2. ห่างกัน 2 เมตรคือระยะปลอดภัย ถ้าหากมีความจำเป็นจะต้องออกจากบ้านจริงๆ ควรนั่งหรือยืนให้อยู่ห่างจากผู้อื่นประมาณ 1.5-2 เมตร ไม่ว่าจะบนรถไฟฟ้าหรือยืนต่อคิวก็ตาม และควรใส่หน้ากาอนามัย พกเจลล้างมือติดตัวเสมอ3. เปลี่ยนมาทานอาหารแบบจานเดียว ด้วยนิสัยของคนไทยเรามักจะทานข้าวร่วมกัน แชร์อาหารกันโดยใช้ช้อนกลาง แต่ตอนนี้ใช้แค่ช้อนกลางอย่างเดียวคงไม่พอ แนะนำให้ทานแบบเป็นชุดสำหรับคนเดียวก่อนดีกว่า4. งดสัมผัสหรือถูกเนื้อต้องตัวผู้อื่น ช่วงเวลานี้ไม่ว่าคุณจะเพศอะไรหรือวัยไหนก็ตามต้องรู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่ให้ผู้อื่นมาแตะต้องร่างกายของเรา และเราเองก็ไม่ควรไปสัมผัสตัวผู้อื่นโดยไม่จำเป็น เพราะจะเป็นการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น หรือผู้อื่นอาจนำเชื้อมาสู่ตัวเราได้ด้วย และควรงดเอามือสัมผัสหน้าแบรนด์ดังกับไอเดียจุดเจ๋ง ช่วยรณรงค์ Social Distancing
หลายแบรนด์ก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในในการรณรงค์เรื่อง Social Distancing โดยการนำเอาโลโก้แบรนด์มาจับแยกออกจากกันแบบนี้ซะเลย ปันโปรสรุปให้
• Social Distancing มีบทเรียนให้เห็นจากในอดีตแล้วว่าจะทำให้อัตราการแพร่เชื้อลดลงได้
• อดทนกันอีกนิดนะพวกเรา! อดทนอยู่บ้านกันวันนี้เพื่อที่ประเทศเราจะได้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว
• แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้อย่าลืมป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ และเมื่อกลับถึงบ้านควรรีบล้างมือทันที!App Punpro โหลดเลย ทั้งแจ้งโปร มีดิลร้อนลดราคาแรงๆ และบริการรับหิ้วสินค้าให้พร้อม
คลิ๊กเลย!!!
v
v