ตาอีกข้างของโอบิโตะ????

[LM]

สงสัยนิดหน่อยไครช่วยหาเหตุผลให้ที

ตาที่น่าจะโดนหินทับ แหลกไปแล้ว โทบิมันเอามาใช้ใหม่ได้ยังไง

[windyzero]

อาจจะไม่โดนทับจนแหลกก็ได้ครับ

แต่มันอาจจะทับไปครึ่งซีกจนอวัยวะสำคัญๆบอบช้ำหนัก อาการก็เลยสาหัสจนต้องมอบเนตรข้างซ้ายให้คาคาชิ

[Zigmund]

ตอนนั้นโอบิโตะยังขยับปากพูดกับคาคาชิได้อยู่เลย มันอาจจะมีช่องว่างบริเวณใบหน้าอยู่ก็ได้ครับ

เพราะถ้าร่างมันแหลกจริง คงขยับปากพูดไม่ได้แน่นอน (อันนี้แถให้แทนอาจารย์นะ 555)

[Oni Me no Kyo]

ตอนนั้นโอบิโตะยังขยับปากพูดกับคาคาชิได้อยู่เลย มันอาจจะมีช่องว่างบริเวณใบหน้าอยู่ก็ได้ครับ

เพราะถ้าร่างมันแหลกจริง คงขยับปากพูดไม่ได้แน่นอน (อันนี้แถให้แทนอาจารย์นะ 555)

มาดาระ หรือ โทบิ อาจซุ่มดูอยู่ แล้วใช้อิซานางิ จินตนาการให้ ด้านนั้นพร้อมดวงตาอีกข้างของยังอยู่ก็ได้ แต่มาดาระมันหยิ่งมันคงไม่ทำเพื่อ ดวงเนตรเพียงข้างเดียวหรอก แต่เป็นโทบิ ไม่แน่เพราะหมอนี่รอบคอบ อาจจะรู้ เนตรวงแหวนสายบ้านโอบิโตะ เป็นสไตล์ วาร์ป เปิดมิติ เป็นผมก็ยอมใช้อิซานางิ เพื่อให้ได้มา

ปล. ท่าน Zigmund สงสัยเราคิดไปทางเดียวกันเกินไป ท่าน sattkon เค้าเลยคิดว่าเราเป็นคนๆเดียว งั้นต่อไปเราจะคิดไม่เหมือนนายแล้วล่ะ B1 !!

เห้อ!! น่าเบื่อซะจริง

[Pop_เซียนซกมก]

ไม่สามารถให้คำตอบได้เพราะ คนเขียนไม่บอก -*-. อาจจะแหลกทั้งซีก เหลือแต่ตาก็ได้   

[p@pangja]

คิดต่างหน่อย
บางทีคาคาชิอาจจะวิเคราะห์ผิด ทุกคนที่ใช้วิชามิติอาจจะไปเจอที่มิติเดียวกัน
โทบิเองก็อาจจะเออออห่อหมก เพื่อให้คาคาชิหวั่นไหวไม่มีสมาธิในการสู้

[prince_fenris]

 

[ประชาชนธรรมดา]

สงสัยนิดหน่อยไครช่วยหาเหตุผลให้ที

ตาที่น่าจะโดนหินทับ แหลกไปแล้ว โทบิมันเอามาใช้ใหม่ได้ยังไง

ผมจะเดาและแต่งเรื่องขึ้นว่า ขณะที่หินทับนั้น ตาข้างที่โดนหินทับอาจจะทำงานอัตโนมัติ วาปได้เองโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว แน่นอนอาจจะไม่ใช่แค่ตาที่โดนวาป ส่วนที่ถูกหินทับทั้งร่างก็อาจจะวาปไปอยู่อีกมิติหนึ่งแล้วก็เป็นได้  เหมือนวิชาที่โทบิใช้อยู่ในปัจจุบัน

[nokia502]

ที่จริงตามันก็แหลกพอสมควรละนะ แต่ยังไม่ตาย แล้วโอโรจิมารุที่กำลังต้องการร่างทดลองเพื่อผสมรวมกับเซลของรุ่นที่1ก็โผล่มาเก็บเอาโอบิโตะไปทดลองรวมกับเด็กอื่นๆอีกรวม60คน โอโรจิมารุคิดว่าทั้ง60คนนั้นตายหมดแล้ว แต่ก็ยังมีคนที่รอดมาได้2คน 1คนนั้นก็คือยามาโตะผู้ใช้วิชานินจาไม้ได้  และอีกคนที่...ก็คือ อุจิวะ โอบิโตะนั่นเอง

   

[sattkon]

มันอาจจะใช้ DNA ปลุกถ่ายตาขึ้นมาใหม่