20+ เทศกาลสาเก Saijo Sake Matsuri ที่สาวกแอลกอฮอล์ลิซึมห้ามพลาด

[promotion]

คำเตือน: บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
เป็นบทความเฉพาะซึ่งไม่เหมาะสมต่อเด็กและเยาวชน


ขอต้อนรับเหล่า 'แอลกอฮอล์ลิซึม' ที่หลังเลิกงานทุกคืนวันศุกร์ต้องออกไปย่ำราตรีย่านทองหล่อ เอกมัย แล้วปิดท้ายด้วยข้าวต้ม ร้านแสงชัยโภชนา เพราะเปย์เป้จะพาทุกคนไปเมาตั้งแต่หัววันกับ 'Saijo Sake Matsuri' โปรโมชั่น เทศกาลสาเกที่ตำบลไซโจ จังหวัดฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตเหล้าสาเกชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น พร้อมเคล็ดลับสำหรับนักดื่มมือใหม่ ไม่ให้แฮงค์ หรือเมาคอพับเร็วแบบ Fast & Furious และจะไม่มีคำว่า 'คออ่อน' สำหรับนักท่องราตรี ในเส้นทางสุราเมระยะอีกต่อไป









รู้จัก Saijo Sake Matsuri เทศกาลสาเกระดับประเทศของญี่ปุ่น

สำหรับ Saijo Sake Matsuri ถูกจัดตั้งแต่ปี 1990 โดยจะโปรขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมทุกปี ใกล้สถานีรถไฟ JR Saijo เป็นการรวมเหล่าโรงกลั่นเหล้าสาเกเก่าแก่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ให้ผู้ที่ชื่นชอบสาเกและนักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสและดื่มด่ำกับความหวานหอมของข้าวที่ผลิตด้วยเทคนิคเฉพาะ และมีมาสคอตสุดน่ารักอย่างเจ้า 'Nonta' ทานุกิหรือตัวแรคคูนขี้เมาที่มาพร้อมขวดสาเกในมือ และถือเป็นสัตว์นำโชคประจำประเทศญี่ปุ่น









รู้จักโรงหมักสาเกกับเทศกาล Saijo Sake Matsuri

นักดื่มที่จะเดินทางมายังเทศกาล Saijo Sake Matsuri จะต้องมีบัตรเข้างานที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ อย่างร้าน 7-11 หรือ Lawson ในราคา promotion ลดราคาเหลือ  1,600 เยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 438.52 บาท) หรือจะไปซื้อตั๋วที่หน้างานในราคา 2,100 เยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 575.56 บาท) โดยจะได้รับตั๋ว คูปองต่าง ๆ และ 'ถ้วยสาเก' สำหรับใช้ลิ้มรสและดื่มด่ำสาเกภายในงานโดยเฉพาะ และที่สำคัญชิม Free

แต่สิ่งที่ต้องระวังและรักษาเท่าชีวิตประหนึ่งเป็นของล้ำค่า คือ ถ้วยสาเก ลาย Nonta เพราะถ้าทำหายจะต้องไปซื้อตั๋วเพื่อแลกกับถ้วยสาเกใบใหม่เท่านั้น ไม่สามารถใช้แก้ว หรือถ้วยใบอื่นใน Saijo Sake Matsuri ได้ ดังนั้นต้องรวบรวมสติสัมปชัญญะ แม้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เราอยู่ในการมึนเมาก็ตาม ส่วนการจัดงานในปี 2022 นี้คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด -19 ว่าจะรุนแรงมากน้อยเพียงใด โดยสามารถอัพเดตข่าวสารผ่านช่องทางเว็บไซต์ทางการได้  ที่นี่  ระหว่างนี้อาจไปทำความรู้จักกับสาเกของจังหวัดต่าง ๆ ผ่านซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Izakaya Bottakuri

สาเหตุที่ทำให้ตำบลไซโจ จังหวัดฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกแหล่งผลิตสาเกชั้นนำของแดนปลาดิบ เนื่องจากมีโรงหมักสาเกเก่าแก่ถึง 8 แห่ง โดยอยู่รอบบริเวณสถานีรถไฟ JR Saijo ได้แก่



โรงหมักสาเก Kamotsuru
โรงหมักสาเก Fukubi
โรงหมักสาเก Hakubotan (Shuzo)
โรงเบียร์ Saijotsuru
โรงหมักสาเก Kirei
โรงหมักสาเก Kamoizumi (Shuzo)
โรงหมักสาเก Sanyo Tsuru
โรงหมักสาเก Kanemitsu


เกร็ดความรู้:

'Nihonshu' หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า 'Sake' เป็นเหล้าที่กลั่นมาจากข้าว โดยมีระดับแอลกอฮอล์คล้าย 'ไวน์' อยู่ที่ 15-20 ดีกรี แต่ในบางพื้นที่กลับเรียกสาเกว่า 'Shuzo' หรือวอดก้าญี่ปุ่น เพราะเป็นเหล้าที่กลั่นมาจากมันสำปะหลัง หรืออ้อย โดยมีระดับแอลกอฮอล์สูงถึง 25-30 ดีกรี







รับมือฤทธิ์แอลกอฮล์ไม่ให้แฮงค์และดื่มได้เช้าจรดค่ำในเทศกาล Saijo Sake Matsuri

ก่อนออกเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน Saijo Sake Matsuri ซึ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ JR Saijo คอทองแดงทั้งหลาย 'ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง' เนื่องจากแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย โดยใช้เวลาดูดซึมเพียง 30 นาที ถึง 2 ชม. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราเมาเร็ว และอาจนำไปสู่โรคร้ายอย่างกระเพาะอาหารอักเสบ แต่หากทานอาหารรองท้องก่อนไปดื่มด่ำและลิ้มรสสาเก ร่างกายจะใช้เวลา 1-6 ชั่วโมงในการดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เป้าหมายในการปักหลักดื่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำ อาจพอมีหวังและเป็นไปได้





ตั้งปณิธาน 'ไม่เมาค้าง' กับเทศกาล Saijo Sake Matsuri

Andreas Kalbitz นักวิชาการชาวเยอรมัน กล่าวไว้ว่า "ยังไม่มีคำยืนยันทางวิชาการว่า การดื่มแอลกอฮอล์หลากชนิดจะมีผลให้เมาเร็วหรือเมาค้าง" เพราะปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดต่อมิลลิกรัมและอาการเมา มีผลจากปริมาณของแอลกอฮอล์ล้วน ๆ อาการเมาค้างจึงขึ้นอยู่กับปริมาณการดื่มไม่ใช่ความหลากหลายของชนิดแอลกอฮอล์




อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>>
Saijo Sake Matsuri








นอกจากนี้ยังมีคำยืนยันจากการวิจัย The American Journal of Clinical Nutrition ในประเทศเยอรมัน ที่พบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ต่างชนิดสลับกัน ไม่มีผลที่ทำให้เกิดอาการเมาค้าง โดยทดลองจากกลุ่มนักดื่ม 90 คน ที่มีพฤติกรรมการดื่มใกล้เคียงกัน จากนั้นแบ่งเป็น 3 กลุ่มและให้ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสมเท่า ๆ กัน กลุ่มแรกให้ดื่มเบียร์จนมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ 0.05% และให้ไปดื่มไวน์ต่อจนถึง 0.11% ส่วนกลุ่มที่ 2 ให้ดื่มกลับกัน คือ ดื่มเบียร์ก่อนแล้วตามด้วยไวน์ ส่วนกลุ่มสุดท้ายให้เลือกดื่มอย่างใดอย่างหนึ่ง

จากนั้นในวันรุ่งขึ้น นักวิจัยได้การเก็บข้อมูลอาการเมาค้างจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด และ 1 สัปดาห์หลังจากนั้น ได้ให้กลุ่มนักดื่มสลับรูปแบบการดื่มแอลกอฮอล์จนครบ ผลการศึกษาพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ต่างชนิดก่อนหรือหลังตามความเชื่อที่ว่า ดื่มเบียร์ก่อนแล้วปิดด้วยไวน์หรือเหล้าจะทำให้ไม่แฮงค์ นั้นไม่เป็นความจริง เพราะการเริ่มต้นดื่มแอลกอฮอล์ที่มีระดับแอลกอฮอล์จากน้อยไปมาก ไม่ส่งผลต่อการเกิดอาการเมาค้าง

ดังนั้นใครที่กำลังมีความคิดว่าจะอุ่นเครื่องและกลั้วคอด้วยเบียร์ ก่อนไปเทศกาล Saijo Sake Matsuri เพื่อป้องกันไม่ให้แฮงค์ ก็หยุดความคิดนั้นไว้ได้เลย แต่ก็ยังมีเรื่องราวดี ๆ ให้อุ่นใจขึ้นมาบ้าง เพราะสาเกมีส่วนผสมจากน้ำแร่คุณภาพดีมากถึง 80% การดื่มสาเกจึงไม่ได้ไปลดอุณหภูมิร่างกายมากเท่าการดื่มไวน์หรือเบียร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการเมาค้าง แต่ถ้าลิ้มรสและดื่มด่ำสาสาเกไม่ยั้งจนเกินลิมิตตัวเอง เปย์เป้ก็ไม่ขอรับประกันว่าจะแฮงค์หลังจากพาตัวเองกลับไปนอนพักที่โรงแรมนะ

แม้เทศกาล Saijo Sake Matsuri จะยังไม่มีประกาศจัดงานอย่างเป็นทางการ นักดื่มตัวแทนประเทศไทยอย่างเราคงไม่ถึงขั้นต้องวอร์มคอรอ ด้วยการดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันหรือบ่อยมากจนเกินไป เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า แอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งต่อสมองที่อาจทำให้เสื่อมก่อนวัยอันควร และส่งผลเสียต่ออวัยวะต่าง ๆ จนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และนำไปสู่โรคร้ายที่คร่าชีวิตไปแล้วหลายราย เช่น โรคตับแข็ง โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคแอลกอฮอล์ลิซึม หรือพิษสุราเรื้อรัง ดังนั้นควรดื่มแต่พอดีและรักษาสุขภาพ แต่ถ้าสามารถ 'ลด ละ เลิก' ได้ก็จะดีต่อร่างกายมาก ด้วยรักและห่วงใยจากเปย์เป้ 


ที่มา: sakematsuri, japantravel, themomentum, hd