หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: อัปเดต ขั้นตอนการ "ทำใบขับขี่" สำหรับมือใหม่ 2564 - 2565  (อ่าน 1052 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2499



ใบขับขี่ ก็เหมือน หัวใจ ของคนใช้รถใช้ถนนที่ " ไม่มี ไม่ได้ "

จริงอยู่ที่ว่าถ้าหากขาดใบขับขี่ไป เราก็จะยังขับรถกันได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าใบขับขี่จะไม่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพ่วงด้วยข้อกฏหมายด้วยแล้ว ดังนั้น มือใหม่หัดขับทั้งหลายที่กำลังมองหาวันสอบใบขับขี่กันอยู่ หรือใครที่ขับรถมาได้สักพักนึงแล้ว แต่ยังไม่ได้ใบขับขี่สักที ต้องหาวันไปทำใบขับขี่กันแล้วมั้ย ส่วนขั้นตอนการทำใบขับขี่ฉบับอัปเดตตอนนี้จะเป็นยังไง มีอะไรเปลี่ยนไปมั้ย  เราสรุปมาให้แล้ว !








ท่องไว้ให้ขึ้นใจ " ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ " มีความผิด !


มีรถแล้วใช่ว่าจะสามารถขับออกไปเที่ยวนอกบ้านกันได้เลยนะ เพราะไม่ว่ารถของเพื่อน ๆ จะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือรถบรรทุกโดยสารเองก็ตาม ถ้ามีการขับขี่บนท้องถนนเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก ๆ รองลงมาจากทักษะการขับขี่ของเรานั่นก็คือ ใบขับขี่ แล้วทุกคนรู้กันหรือเปล่าว่า ถ้าเราขับรถโดยที่ไม่มีใบขับขี่ มีความผิดนะ ! ถึงแม้ว่าบางคนจะมองว่าแจ็คพอตมันคงจะไม่มาแตกที่เราหรอก แต่ถ้าแจ็คพอตแตกขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจถึงขั้นจำคุกกันได้เลยเด้อ...



พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 64 ระบุไว้ว่า

" ผู้ใดขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน

หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ "



ยิ่งเข้าใกล้เทศกาลวันหยุดยาว ไม่ว่าจะปีใหม่ หรือสงกรานต์ ตามเส้นทางสำคัญ ๆ ต่าง ๆ อาจจะมีการตั้งด่านตรวจความเรียบร้อยขึ้นได้ ซึ่งถ้าทางเจ้าหน้าที่ขอดูใบขับขี่แล้วพบว่าเราไม่มี นอกจากจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์แล้ว ทางเจ้าหน้าที่อาจจะให้เราทิ้งรถไว้ ไม่ให้ขับ จนกว่าเราจะมีหลักฐานมายืนยัน หรือหาคนที่มีใบขับขี่มาขับแทน รวมไปถึงถ้าสมมุติมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมาระหว่างทาง ต่อให้เราทำประกันไว้ชั้นดีแค่ไหน ยังไงก็ผิดกฏหมาย ! (แถมโปรประกันก็ไม่รับเคสนี้ด้วยนะจ๊ะ) ดังนั้น หากรู้ตัวว่าต้องมีการใช้รถยนต์ ใช้ถนน ไม่ว่าจะเดินทางบ่อยหรือไม่บ่อยยังไง ก็ควรจะเคารพกฏจราจรด้วยการเจียดเวลาสักนิด แล้วไปทำใบขับขี่ซะ !








มือใหม่อ่านกงนี้ " อัปเดตโปรโมชั่นขั้นตอนการทำใบขับขี่รถยนต์ "
จะไปทำทั้งที ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?




เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน

 










ขั้นตอนที่ 1 : จองคิวอบรมผ่านทางแอป DLT Smart Queue

สำหรับขั้นตอนนี้ได้เริ่มใช้มาสักพักนึงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำใบขับขี่ใหม่ หรือต่ออายุใบขับขี่ก็ตาม ตอนนี้ถ้าจะ Walk In เข้าไปหน้างานเลย เกรงว่าจะไม่ได้  ต้องทำการจองคิวโปรออนไลน์มาก่อนเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะทางขนส่งต้องการจะจัดสรรปริมาณของผู้เข้าใช้บริการ จะได้เซฟทั้งระบบการจัดคิว รวมถึงเซฟพวกเราในช่วงโควิดนี้ด้วย !



อ่านบทความฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>> ทำใบขับขี่สำหรับมือใหม่




ขั้นตอนที่ 2 : เตรียมเอกสารสำคัญสำหรับการทำใบขับขี่

หลังจากได้คิวกันเรียบร้อยก็ได้เวลาของการเตรียมเอกสารสำหรับการทำใบขับขี่กันต่อ สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมไปก็ได้แก่

- บัตรประชาชน (ตัวจริง)
- ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน และจะต้องมีตราประทับจากสถานพยาบาลชัดเจน




ขั้นตอนที่ 3 : ทดสอบสมรรถภาพในวันและเวลาตามนัดหมาย

สำหรับการทดสอบสมรรถภาพที่ว่านี้ก็ได้แก่ การทดสอบสายตาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทดสอบการมองเห็นสีสัญญาณไฟ, ทดสอบการมองเห็นมุมกว้าง และลึก รวมถึงการทดสอบปฏิกริยาทางเท้า (การเหยียบเบรก)




ขั้นตอนที่ 4 : อบรมที่สำนักงาน

อันนี้จะต่างจากแก๊งที่ต่ออายุใบขับขี่นิดนึง สำหรับแก๊งที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว ถ้าต้องการจะต่ออายุ อันนี้ทางขนส่งอนุญาตให้อบรมออนไลน์มาก่อนได้ แต่มือใหม่อย่างเรา ๆ จำเป็นต้อง เข้ารับการอบรมที่ขนส่งเท่านั้น โดยจะใช้เวลาสำหรับการอบรมอยู่ที่ 5 ชั่วโมง แบ่งเป็นรอบเช้า กับรอบบ่าย จบภายในวันเดียว




ขั้นตอนที่ 5 : สอบข้อเขียน

จำนวน 50 ข้อ ถึงจะผ่านไปสู่ด่านต่อไปได้ และ ผู้เข้าสอบจะต้องตอบถูก 90% หรือคิดเป็น 45 ข้อ จากทั้งหมด 50 ข้อ ซึ่งข้อสอบก็ไม่ยาก ถ้าตั้งใจฟังตอนอบรมรับรองทำได้ชัวร์ ! หรือใครไม่มั่นใจก็ลองหาพวกแบบทดสอบออนไลน์มาทำกันก่อนก็ได้ คิดอะไรไม่ออกบอกอากู๋โล้ด




ขั้นตอนที่ 6 : สอบปฏิบัติ

อันนี้ปกติแล้วทางขนส่งจะนัดเวลาเรามาสอบภาคปฏิบัติกันอีกที สำหรับ 3 ท่าสอบที่ต้องเจอแน่ ๆ ไปซุ่มซ้อมกันไว้ก่อนได้เลย ก็จะมีดังนี้

ท่าเดินหน้า ถอยหลัง มีข้อแม้ว่าห้ามเบียด หรือชนเสาทั้งซ้ายขวา และผู้เข้าสอบสามารถเดินหน้า ถอยหลังได้ 1 ครั้งเท่านั้น
ท่าจอดเทียบทางเท้า วิธีให้คะแนนว่าผ่านหรือไม่ผ่าน คือ จะต้องมีระยะห่างจากขอบทางเท้าตามที่กำหนด และต้องห้ามชนขอบฟุตบาท
ท่าถอยหลังเข้าซอง เรียกได้ว่าเป็นท่ายอดฮิตที่ทำเอาหลายคนสอบตกกันมาแล้ว  แนะนำว่าให้ฝึกซ้อมกันมาดี ๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานัดซ่อมกันอีกวันน้า

อย่างที่บอกไปว่าถ้าสมมุติสอบไม่ผ่าน อันนี้ทางขนส่งจะนัดหมายวันสอบซ่อมมาให้เราอีกที ส่วนใครสอบผ่านฉลุยก็ลุยขั้นตอนต่อไปกันโล้ด...




ขั้นตอนที่ 7 : ชำระเงินแล้วรับใบขับขี่กันได้เลย

หลังจากสอบภาคปฏิบัติกันเรียบร้อย ก็ให้ทำการชำระเงิน ถ่ายรูป แล้วรับใบขับขี่กลับบ้านไปนอนกอดกันได้เลย  ถึงแม้ว่าขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลากันนานหน่อย ไม่ว่าจะอบรม, ทดสอบสมรรถภาพ รวมถึงสอบปฏิบัติ แต่ใด ๆ ก็ไม่อยากให้ทุกคนมองว่ามันเสียเวลาชีวิตกันนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่คนใช้รถใช้ถนนอย่างเราควรจะต้องทำ เพราะเมื่อมีใบขับขี่แล้ว อะไร ๆ ก็สะดวกมากกว่าเดิมเยอะจริง ๆ เพราะฉะนั้นใครยังไม่ได้ทำใบขับขี่ รีบโหลดแอป DLT แล้วหาคิวว่างไปทำใบขับขี่ของตัวเองกันได้แล้ววว




ปันโปรอยากบอก

- สำหรับใบขับขี่ใบแรกที่ได้มา จะเป็นใบขับขี่รถยนต์ชนิด " ชั่วคราว " โดยจะมีอายุเพียงแค่ 2 ปี เมื่อครบอายุแล้วก็ให้ไปทำการต่ออายุจาก 2 ปี เป็น 5 ปีกันอีกครั้ง

- ค่าธรรมเนียมการออกใบขับขี่รถยนต์ " ที่ต้องจ่าย " จะอยู่ที่ 205 บาท (รวมค่าถ่ายรูปกับบัตรพลาสติกแล้ว)
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่มีใบขับขี่แต่กำลังจะหมดอายุ หรือหมดอายุไปแล้ว ก็สามารถเข้าไปอ่านขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่กันได้ที่นี่ > ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่

- อัปเดตข้อมูล ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2564


ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : dlt.go.th, gecc.dlt.go.th และ highway.police.go.th