หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: ฮิตสุด ณ จุดนี้ ! เปิดลิสต์ 5 "ต้นไม้ราคาแพง" คนซื้อขนหน้าแข้งแทบร่วง คนขายได้กำ  (อ่าน 1157 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2499



สายมือใหม่หัดปลูกได้เวลาหลีกทาง เพราะงานนี้บอกได้คำเดียวว่า พี่ โปร ไม่ได้มาเล่นๆ  ไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆ คนไหนในที่นี้ที่อินกับการปลูกต้นไม้มาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้แล้วบ้าง ? ว่าแต่... ตอนนี้มีการอัปเกรดสกิลการปลูกต้นไม้ของตัวเองเพิ่มขึ้นเยอะไหม รวมถึงบรรดาลูกๆ ทั้งหลาย แน่นเต็มบ้านกันรึยัง   จากที่เราสังเกตมานะ เห็นได้ชัดเลยว่าจากมือใหม่หัดปลูกในตอนนั้น ส่วนใหญ่คืออัปสกิลของตัวเองขึ้นเยอะมาก แบบชนิดที่ว่าที่นอนของตัวเองจะอยู่ตรงไหนไม่สำคัญ ขอแค่เพียงลูกๆ นั้นมีที่นอนก็พอ

อย่างบางคนจากตอนแรกตั้งใจว่าจะปลูกขำๆ อารมณ์ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ตัดภาพมาที่ตอนนี้คือเข้าขั้นอินหนักมาก พันธุ์ไหนที่ว่าหายากก็คือกว้านซื้อมาปลูกหมด หรือบางคนผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายต้นไม้กันซะเอง ที่สำคัญ คือ รายได้ที่เข้ามาจากการขายต้นไม้นั้นไม่ธรรมดาเชียวนะ !









จากปลูก "ต้นไม้" เพราะความชอบ นำมาซึ่งอาชีพ

ถ้าหากว่าเพื่อนๆ ไม่ใช่สายปลูกต้นไม้คงจะไม่เข้าใจ เวลาเห็นตามหน้าข่าว หรือหน้าทามไลน์ของตัวเองในเชิงว่าแบบ.. ต้นไม้พันธุ์นี้ถูกขายได้ในราคา 6 หลัก หรือไม่ก็กำเนิดเศรษฐีหน้าใหม่จากการขายต้นไม้ คนไหนที่ไม่เข้าใจอาจจะมองว่า เห้ย มันขายได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ  กะอีแค่ต้นไม้ต้นเดียว ซึ่งเราจะบอกว่าต้นไม้มันก็มีคุณค่า มีโปรโมชั่นในตัวของมันนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นต้นเล็กๆ แต่มันก็สามารถมีค่าตัวที่สูงพอๆ กับต้นใหญ่ได้เลย ถ้าอาศัยการดูแลเป็นอย่างดี การทะนุถนอม ความหายาก หรือ กระแสของดารา ที่เดี๋ยวนี้เป็นปัจจัยหลักในการอัปค่าตัวของน้องให้สูงลิ่วขึ้นมาแล้ว

และถ้าใครมองว่า เห้ย ใครๆ ก็พูดได้นะ สมมุติเราอยากขายต้นไม้ให้ออกสักต้น เราก็แค่พูดโฆษณาไปเฉยๆ ก็ได้ว่าผ่านการดูแลมาอย่างดี รักมาก ทะนุถนอมสุดๆ คือจะบอกว่าไอ้พูดก็พูดได้นะ แต่ต้นไม้เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก  การดูแลและความใส่ใจของเราสามารถแสดงออกผ่านตัวต้นไม้ได้เลย คือทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้วในตัวของมัน ถ้าใครจะมาโมเมอ้างว่าดูแลดีมาก แต่สภาพหน้างานจริงๆ คือ ใบเหลืองพร้อมตุยเย่อันนี้ก็คือบ่ได้เด้อ 






ยิ่งหายาก ราคาก็ยิ่งแพง

ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะเป็น ยิ่งฮิต ราคาก็จะยิ่งแพง promotions ส่วนหนึ่งก็คือตามหายากด้วยแหละ สองคือพ่อค้าแม่ค้าเองก็ได้มาในราคาที่สูงมากเช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้เรื่องความฮิต ความหายากอะไรพวกนั้นอาจจะไม่สำคัญเท่าความแรร์ของมันแล้ว ความแรร์ได้แก่อะไรบ้าง ?  ก็อย่างเช่นพวก จำนวนที่วางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ อย่างบางพันธุ์อาจจะนำเข้ามาจากต่างประเทศ หายากในไทย ไปจนถึงความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใบ, สี รวมถึงลักษณะของต้นที่มีความพิเศษเฉพาะตัว

ซึ่งต้องบอกว่าต้นไม้มันมีความพิเศษในตัวของมันนะ ต่อให้เป็นพันธุ์เดียวกันก็เหอะ แต่ไม่มีทางที่จะเลี้ยงออกมาแล้วเหมือนกันแน่นอน อย่างเช่นบรรดาตระกูลต้นไม้ใบด่างทั้งหลายที่ตอนนี้มีราคาค่าตัวสูงมากกก และถูกพูดถึงเยอะมาก อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของความพิเศษเฉพาะตัว ที่ต้องอาศัยทักษะการเลี้ยง รวมถึงความพิเศษในตัวอยู่เยอะมากๆ กว่าจะได้ใบมาแบบนี้ ซึ่งก็นั่นแหละ เพราะมันพิเศษมาก ราคาถึงได้อัปสูงขึ้นมากแบบไม่มีลดราคากันอย่างแน่ไปพร้อมๆ กันด้วย (อย่างน้อยๆก็ช่วงนี้ล่ะนะ)





' แล้วบรรดาต้นไม้ราคาแพงในบ้านเราตอนนี้มีอะไรบ้าง

เผื่อจะหามาปลูก มาขายกับเค้าบ้าง ? '




ตระกูลใบด่างทั้งหลาย

อันนี้คือแรร์ไอเทมที่สุดในจังหวะนี้จริงๆ เอาง่ายๆ ก็คือ อะไรด่างสามารถอัป promotions ได้หมด  ตระกูลใบด่างที่ว่านี้ยกตัวอย่างเช่นต้นอะไรบ้าง ?


มอนสเตอร่าด่าง : แค่มอนสเตอร่าธรรมดาค่าตัวก็ว่าแรงแล้ว พอมาเป็นมอนสเตอร่าด่างปุ๊บ ค่าตัวก็พุ่งขึ้นสูงถึงหลักล้านปั๊บ ที่ฮิตสุดก็หนีไม่พ้นมอนสเตอร่ามิ้นต์ด่าง แล้วต่างจากมอนสเตอร่าด่างธรรมดายังไง ?  สำหรับตัวเจ้ามิ้นต์นี้จุดสังเกตจะอยู่ที่ใบ ที่จะมีสีเขียวมิ้นต์ ต่างจากสีเขียวธรรมดานิดหน่อย แม้จะต่างแค่นิดเดียวจนมองเผินๆ แทบจะดูไม่ออก แต่ก็สามารถอัปค่าตัวให้สูงลิ่วได้เพราะความแรร์ของมัน ประจวบกับความด่างของใบ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ คือน้อยมากถึงจะได้ใบด่าง


เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน

 




แล้วใบด่างคืออะไร ?   ใบด่างเอาจริงๆ แล้วถือว่าเป็นต้นไม้ที่มีความผิดปกติ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม จนทำให้เมื่อเจริญเติบโตขึ้นมาแล้วมีความแตกต่างจนกลายเป็นที่ต้องการของคนขึ้นมา (ก็คือความผิดปกติ สร้างมูลค่าให้ตัวน้องๆ นั่นแหละ) และจะบอกว่าคนที่จะซื้อต้นไม้ใบด่างมาเลี้ยงจะต้องมีการดูแลที่ดีมากๆ นะ เพราะเนื่องจากน้องมีความผิดปกติ เลยทำให้อาจจะอ่อนแอ อะไรนิด อะไรหน่อยก็ส่งผลกับตัวน้องได้ ไม่เหมือนต้นไม้ใบเขียวธรรมดาทั่วไป



มอนสเตอร่ามิ้นต์ด่างมอนสเตอร่ามิ้นต์ด่าง ขอบคุณภาพจาก komorebi.green



กล้วยด่าง : ล้ำมะ พูดดดด เผลอๆ หลายคนอาจจะเคยเห็นตาม Instagram ของดารากันมาแล้ว แต่เราอาจจะไม่รู้กันเองว่านั่นคือกล้วย  สำหรับความนิยมในช่วงแรกๆ น้องอาจจะถูกบดบังด้วยพี่ๆ พันธุ์อื่นๆ แต่พักหลังมาเนี่ยอยู่ดีๆ บูมขึ้นเฉย แถมพันธุ์กล้วยด่างใหม่ๆ ก็ถูกพูดถึงเยอะสุดอะไรสุด และที่สำคัญนะจ๊ะ ค่าตัวพุ่งสู่ 7 หลักไม่แพ้มอนสเตอร่าเลย อย่างพันธุ์กล้วยด่างยอดนิยมก็จะมี กล้วยด่างฟลอริดา ที่จะมีจุดเด่นอยู่ที่ลายเส้นของใบด่างที่เป็นสีขาว เหลือง ผสมผสานกับสีใบเดิมอย่างเขียว ดูสวยเด่นสะดุดตา

และไม่รู้ว่ามีคนสงสัยแบบเราไหมว่า แล้วกล้วยด่างมีผลไหม ? คำตอบก็คือมีจ้า ที่สำคัญคือเปลือกของมันก็มีสีด่างเหมือนใบด้วยนะ ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกตาดีมากเลย (ถึงว่าราคาแพงเชียว แหะๆ ) 




กล้วยด่าง ขอบคุณภาพจาก loveandoddities.com


อ่านเนื้อหาฉบับเต็มคลิ๊กเลย >>> ไม้ด่าง


แคสตัสด่าง : อันนี้เอาใจคนที่ไม่ชอบปลูกต้นใหญ่ๆ เลยกลายมาเป็นต้นไม้เล็กๆ ที่มีหนามแทน (ได้มะ ได้อยู่เนอะ )  เอาจริงๆ สายพันธุ์ของแคสตัสในบ้านเราก็คือมีเพียบ แล้วเป็นที่นิยมในการนำมาประดับตกแต่งโต๊ะทำงาน หรือพื้นที่ในบ้านให้มันดูมีอะไรขึ้นา อย่างบางคนเป็นสายมู ปลูกต้นแคสตัสเพราะเค้าลือกันว่าถ้าปลูกแล้วดอกมันงอกออกมาเมื่อไหร่ แปลว่าเรากำลังจะมีโชค5555 ซึ่งอันนี้ไม่รู้จริงไหม แต่คิดว่าจริง  เพราะทางเราก็คือยังไม่ทันได้ชื่นชมดอก น้องก็ปิ๋วไปซะก่อน เลี้ยงแคสตัสยังตายอ่ะคิดดูววว

สำหรับสายพันธุ์ที่เหมือนจะหาซื้อง่าย ถ้าด่างขึ้นมาเมื่อไหร่ราคาพุ่งสูงลิ่วแตะหลักหมื่น หลักแสน ก็ได้แก่ ยิมโน คือด่างก็ว่าแพงแล้ว แต่ถ้าเป็นยิมโนสีม่วง หรือสีดำที่แรร์อยู่แล้วด้วยนะ อื้อหือ อัปค่าตัวเพิ่มขึ้นรัวๆ




ยิมโนด่าง







ตระกูลใบ (ไม่) ด่าง ที่ค่าตัวแรงไม่แพ้กัน


บอนไซ : บอนไซคือผู้มาก่อนกาลของจริง   ก่อนมอนสเตอร่าฮิต แคสตัสจะบูม นี่จ้า ต้องพี่บอนไซเค้านี่... สร้างเงิน สร้างอาชีพให้คนมาแล้วกี่คน และที่สำคัญนะ คนเลี้ยงบอนไซแต่ละคนคือไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเค้าเลี้ยงแบบจริงจัง ส่งขายทั้งในและต่างประเทศกันไปเลย

ความยากของการเลี้ยงบอนไซ ก็คือ การควบคุมทิศทางของต้น  รวมถึงการเข้าลวดดัดทรงให้ออกมาเป็นรูปทรงต่างๆ ที่มีความแตกต่างเฉพาะตัว ยิ่งทรงไหนอลังการมาก ราคาก็อัปสูงขึ้นตามไปด้วย ข้อดีของการเลี้ยงบอนไซ คือ โตช้า (ไม่ได้โตพรวดแบบบางสายพันธุ์) มีให้เลือกปลูกหลายไซซ์ จะเล็กๆ ไปเลย หรือจะโตไปเลยก็มี ไม่ผลัดใบ สวยงาม และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากความสวยงามนี้ได้




บอนไซ



พลูฉลุ :  หาซื้อง่าย เลี้ยงง่าย ดูแลง่าย ที่สำคัญไม่ดื้อ นี่แหละน่าจะตอบโจทย์สำหรับคนอยากหาต้นไม้มาปลูก แต่ดูแลไม่เก่ง เลี้ยงไป เลี้ยงมา เผลอๆ น้องอาจจะสร้างรายได้ให้เราแบบไม่รู้ตัวก็ได้ ปกติหลายคนอาจจะคุ้นกับพลูด่างกันมากกว่า อันนั้นเราก็ว่าเลี้ยงง่ายไม่แพ้กัน แต่ถ้าอยากเพิ่มกิมมิกในการเลี้ยง รวมถึงการต่อยอดสร้างเป็นรายได้ได้มากกว่า เรามองว่าตัวเลือกอย่างพลูฉลุน่าสนใจไม่ใช่น้อย

การสร้างรายได้ของพลูฉลุอยู่ตรงไหน ก็ต้องส่วนของใบที่เป็นลายฉลุนั่นแหละที่จะบ่งบอกถึงมูลค่าในตัว แล้วลายฉลุเกิดจากอะไร ?  ก่อนหน้านี้เราพูดถึงใบด่างกันไปแล้ว ว่ามีสาเหตุมาจากความผิดปกติของพันธุกรรม ซึ่งลายฉลุก็ไม่ต่างกัน ลายของใบที่ฉลุนั้นเกิดจากพันธุกรรมที่ทำให้ต้นเจริญเติบโตมาพร้อมกับใบที่ฉลุ

ซึ่งถ้าถามว่าแล้วใบฉลุนั้นจะวัดมูลค่าได้จากอะไร คำตอบก็คือจากขนาดของลายฉลุจ่ะ ต่อให้ต้นใหญ่กว่าบอกเลยว่าไม่สำคัญ เพราะความสำคัญถูกวัดกันที่ขนาด คือยิ่งขนาดของลายฉลุใหญ่แค่ไหน ราคาก็จะยิ่งอัปขึ้นตามไปด้วย โดยพันธุ์ของพลูฉลุที่เรียกได้ว่าหายากและราคาสูงมากที่สุดนั้นได้แก่ Monstera obliqua ที่มักจะมีขนาดของลายฉลุที่ใหญ่ แถมยังมีรูปทรงแปลกๆ อาทิ กลม รี และที่สำคัญหาซื้อยากมากด้วย




พลูฉลุ





อยากรับบทแม่ค้าขายต้นไม้ แต่จะขายที่ไหนดี แล้วต้องจัดส่งแบบไหน ต้นไม้ถึงจะไม่พัง
ไหนๆ ก็แนะนำกันมาขนาดนี้ทางเราก็ขอไปให้สุด จากใจคนที่เคยสั่งต้นไม้ทางอินเตอร์เน็ตแบบเรา สารภาพตามตรงว่าการแพ็กต้นไม้ส่งนั้นเป็นอะไรที่ต้องพิถีพิถันหนักมาก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้อ่ะทุกคน ความบอบบางรวมถึงการดูแลมันต้องมีมากกว่าอยู่แล้ว แล้วขนส่งในบ้านเราก็.... นะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ดังนั้นถ้าจะสวมวิญญาณแม่ค้ามืออาชีพจะต้องทำการบ้านหนักมาก หลักๆ ก็คือการ ซ้อมแพ็กต้นไม้  จ่ะ







กูรูที่ดีก็คือ YouTube 555555 เพราะเทคนิคมีเยอะมากทุกคน แถมมีวิดีโอประกอบเป็นตัวอย่างได้ดีมาก มือใหม่หัดขายก็ต้องลองกันดู หรือถ้าเลือกได้ พยายามอย่าขายต้นใหญ่มาก หรือถ้าจัดส่งต้นไม้ด้วยตัวเองได้ (แต่ต้องไม่ลำบากตัวเองนะ) ก็ขอให้ทำ เพราะจากประสบการณ์ที่เคยเจอมาคือแม่ค้าแพ็กดีมาก แต่กิ่งน้องก็ยังหัก แง อันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ เพราะถือว่าทางร้านทำดีที่สุดแล้ว /บีบมือ

อย่างวิธีการแพ็กส่งต้นไม้ที่ได้รับความนิยมกันเยอะมากในช่วงที่ผ่านมานั้นก็ได้แก่ การแพ็กต้นไม้ส่งแบบตะกร้า คืออะไร?  เป็นวิธีการจับน้องแพ็กให้เรียบร้อยก่อน 1 รอบ ก่อนจะนำเอาไปใส่ในตะกร้า แล้วครอบทั้งบนทั้งล่าง นำเทปพันให้เรียบร้อยก่อนจะนำไปส่ง ก็คือส่งทั้งตะกร้าแบบนั้นเลย ถามว่าวิธีนี้ช่วยได้เยอะไหม  เราว่าเยอะกว่าแบบห่อด้วยหนังสือพิมพ์แล้วนำใส่กล่องไปรษณีย์ทั่วไปนะ เพราะข้อดีของการแพ็กแบบตะกร้านี้ ก็คือ สามารถกันกระแทกให้เราได้ เพราะตะกร้าเค้าจะมีความกว้างอยู่ สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ยังไงก็ลองศึกษาหาวิธีกันดู ใน YouTube พวกวิธีแพ็กต่างๆ คือมีเพียบเลยทุกคน

ส่วนขายต้นไม้ที่ไหนดี ?   เดี๋ยวนี้มีช่องทางเยอะมากทุกคน ตามแต่สะดวกกันเลย ในกลุ่ม Facebook ก็มี, Shopee ก็มี, Instagram ก็มี เปิดแผงขายกันได้เต็มที่โล้ด แต่อันนี้แนะนำเพิ่มเติมในฐานะลูกค้า คือ อยากให้ถ่ายภาพรวมถึงลงรายละเอียดเกี่ยวกับต้นไม้ให้ครบ ว่ามีจุดเด่นตรงไหน สูงขนาดเท่าไหร่ มีวิธีการดูแลยังไง เพราะลูกค้าบางคน (เช่น เรา) คือซื้อแบบที่ไม่มีความรู้เลย ถูกชะตาปุ๊บ CF  แล้วค่อยไปอาศัยถามจากแม่ค้าอีกที ดังนั้น คนจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าก็อย่าลืมทำการบ้าน รวมถึงศึกษาข้อมูลวิธีการเลี้ยงของต้นไม้ที่เราขายกันด้วย จะขายของทั้งที ต้องมีความรู้เกี่ยวกับของที่ขายกันด้วยน้าา คนซื้อเองก็ด้วยเช่นกัน อันนี้บอกตัวเอง แง 









กระแสต้นไม้ในบ้านเรายังแรงดีไม่มีแผ่วจริงๆ  คนรักก็คือรักจริง อย่างที่เราเคยเห็นนะ บ้านของบางคนคือยิ่งกว่าป่าอเมซอนแล้วตอนนี้ ถามหาที่นอนไม่เจอแล้วนะ555 และความรักต้นไม้ที่ว่านี้ มันเลยทำให้หลายคนต่อยอดสร้างเป็นอาชีพขึ้นมา เรียกได้ว่าหารายได้เสริมกันพอกรุบกริบ ส่วนมือใหม่ที่อยากจะเข้าสู่วงการนี้กันบ้าง อันดับแรกลองเริ่มจากการปลูกต้นไม้ให้รอดก่อน ซึ่งเราเคยแนะนำต้นไม้เลี้ยงง่าย ตายยาก เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปลูกกันไปแล้ว ลองเข้าไปอ่าน แล้วหาซื้อมาเลี้ยงดูกันก่อน >>> รวมต้นไม้ฟอกอากาศ <<<


ถ้าฝึกวิชากันเต็มที่แล้วค่อยเขยิบไปคว้าต้นไม้แรร์มาเลี้ยง ใครจะขยายหรือเพาะพันธุ์อะไรก็ค่อยว่ากันอีกที ( ณ จุดนี้เอาต้นไม้ธรรมดาให้รอดก่อน)  หรือถ้ามีใครในที่นี่ที่ประกอบอาชีพขายต้นไม้แล้วมีทริคอะไรเด็ดๆ อยากจะแชร์ ก็สามารถพิมพ์คอมเมนต์เข้ามากันได้ จะได้เป็นการแนะนำเพื่อนๆ คนอื่นที่สนใจอยากจะทำอาชีพนี้กันด้วยน้าา