หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: ได้เวลาสังเกตตัวเอง สาเหตุที่เราน้ำหนักขึ้น หรือจริงๆ แล้วมาจาก "อาการบวมน้ำ"  (อ่าน 1110 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2499




ตั้งแต่ช่วง Work from Home มา บางบริษัทก็ได้ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานโดยปรับให้มาเป็นแบบทำงานจากที่บ้าน ประกอบกับการเข้าออฟฟิศบ้าง ซึ่งโดยส่วนตัวพี่โปรจะบอกว่าการที่นั่งทำงานอยู่แต่กับบ้านแบบนี้ ถ้ามองในเรื่องของสมาธิ รวมถึงการถูกรบกวนน้อยกว่า อันนี้มันก็จริงอยู่ แต่พอเราไม่ได้ขยับร่างกาย เดินไปนู้น แวะมานี่เหมือนเวลาที่เราเข้าออฟฟิศ มันก็อาจจะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เราละเลยเรื่องสุขภาพของตัวเองกันได้

อย่างในช่วงที่ผ่านมา อยู่ดีๆ เราก็มานั่งสังเกตตัวเองว่า เอ๊ะ นี่เรานั่งอยู่แต่กับที่นานๆ จนเริ่มรู้ว่าขาของตัวเองเริ่มบวม อะ คราวนี้พี่ promotion ก็จัด Research ก็คือมารัวๆ  ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักขึ้นบ้างล่ะ นั่งผิดท่าบ้างล่ะ ลามไปจนถึงอาการบวมน้ำ ซึ่งสองอย่างแรกไม่เท่าไหร่ เพราะพอจะรู้มาอยู่บ้างว่าสาเหตุมันมาจากอะไร แต่อย่างหลังนี่สิ คืออะไร แล้วเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาบวม ตัวบวมได้จริงๆ หรอ ?








อาการบวมน้ำคืออะไร หรือนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักขึ้น จริงๆ หรอ ?

ก่อนที่จะเหมารวมว่าตัวเองน้ำหนักขึ้นเพราะอ้วน อันดับแรกพี่ promotions จะพามาทำความเข้าใจกับ "อาการบวมน้ำ" นี้กันก่อนดีกว่า สำหรับอาการบวมน้ำเป็นภาวะที่ร่างกายของเรามีของเหลวอย่างน้ำ รวมถึงน้ำเหลืองสะสมอยู่ในปริมาณที่มากจนเกินไป ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากอาการเจ็บป่วยบางโรค ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของต่อมไทรอยด์, การใช้ยาบางชนิด ไปจนถึงการนั่ง ยืน หรือเดินผิดท่าจนทำให้ร่างกายในส่วนนั้นเกิดอาการบวมขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นเฉพาะกับขาอย่างเดียวนะ เรียกได้ว่าสามารถเกิดขึ้นกับอวัยวะทุกส่วนของร่างกายกันได้เลย

และนอกจากสาเหตุที่บอกไปแล้ว พี่ โปรโมชั่น บอกเลยน้าว่าการรับประทานอาหารของเราก็มีส่วนที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมขึ้นมาได้เหมือนกัน ซึ่งโดยส่วนมากมักจะแสดงออกชัดเจนเวลาที่เราทานอาหารที่มีรสเค็มมากๆ อวัยวะบางส่วนของร่างกาย อาทิ เท้า ขา หรือหน้าก็จะบวมขึ้นมา





เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน

 






การบวมน้ำของบางคน นอกจากอาการบวมแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอีก !

ซึ่งอาการอื่นๆ นั้น ก็เป็นได้ตั้งแต่การรู้สึกอึดอัด ไม่มีพละกำลังเหมือนที่เคยเป็น กระสับกระส่ายรู้สึกไม่สบายเนื้อตัว อย่างบางคนมีอาการความดันสูง รวมถึงน้ำหนักขึ้นเร็วจนผิดปกติร่วมด้วย

ในบางคนที่มีอาการบวมมากๆ จะสังเกตได้ชัดเจนเลยว่าผิวหนังบริเวณที่บวมนั้นจะตึง บวกกับความมันวาวร่วมด้วย อีกทั้งเมื่อใช้นิ้วกดเข้าไปเบาๆ ผิวหนังจะมีความบุ๋มลงไป ซึ่งถ้าใครมีอาการผิดปกติแบบนี้อยู่ ต้องทำยังไง เลื่อนลงไปอ่านคำตอบกันได้เลย







อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>> อาการบวมน้ำ







อาการบวมน้ำ สามารถรักษาให้หายได้ !

ไม่ต้องกังวลกันไปแต่อย่างใด ถ้าสมมุติว่าเรายังไม่แน่ใจกับอาการบวมของตัวเอง ก็ลองมาทำการรักษาเบื้องต้นกันก่อน แล้วลองสังเกตดูกันซิว่าเฮ้ย... มันหายไหม ซึ่งวิธีการรักษาอาการบวมน้ำเบื้องต้นก็ได้แก่


- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสูบบุหรี่
งดกินอาหารที่มีรสเค็ม

- ขยับร่างกายบ่อยๆ อย่างช่วงนี้ใครยัง Work from Home อยู่ก็ลุกมาขยับร่างกายกันบ้างน้า โดยเฉพาะบริเวณน่อง ต้นขา ไล่ไปจนถึงเท้า

- ขยับร่างกายเท่านั้นยังไม่พอ หาโอกาสออกกำลังกายกันบ้าง อาทิตย์ละครั้ง - สองครั้งก็ยังดี
นวดกดจุด อันนี้ช่วยได้จริง เพราะการนวดของเราจะทำให้เกิดแรงกดที่จะช่วยกระจายของเหลวให้ออกจากบริเวณที่บวมได้

- ควบคุมอาหาร อันนี้ขอเสริมสำหรับคนที่ทำทุกอย่างท่าเดียว อาทิเช่นเรา  ก็คือไม่ว่าจะทำงาน, กิน, พักผ่อน ก็คือแหมะเข้าไปจ่ะ กับเก้าอี้ ใครมีพฤติกรรมแบบนี้แล้วรู้สึกว่าน้ำหนักขึ้น หรือตัวบวมขึ้นมา ไม่น่าแปลก เพราะส่วนหนึ่งมาจากเราไม่ได้ขยับร่างกาย รวมถึงร่างกายไม่ได้มีการเผาผลาญพลังงานออกที่ดี ดังนั้น เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองกันด่วนๆ


หากใครที่ลองวิธีการที่เราแนะนำไปนี้ แล้วคิดว่าไม่เวิร์ค หรือไม่หาย แล้วอาการบวมของตัวเองเริ่มมีอาการเจ็บ หรือปวดหนึบๆ ขึ้นมา อันนี้แนะนำให้ไปพบแพทย์เลยดีกว่า จะได้หาทางรักษาที่ถูกต้องและตอบโจทย์ที่สุดนะจ๊ะ





ดังนั้น สำหรับคำตอบของคำถามที่ว่า อาการบวมน้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้เราน้ำหนักขึ้นจริงๆ หรอ คำตอบก็คือใช่จ่ะ แต่การบวมน้ำของเราก็มีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง หากใครที่เพิ่งสังเกตว่าตัวเองมีความผิดปกติ หรือร่างกายมีอาการบวมขึ้นมา ก็ให้ลองวิธีการรักษาเบื้องต้นที่เราแนะนำนี้กันไปก่อน โดยเฉพาะถ้าใครมีพฤติกรรมที่นั่งอยู่แต่กับที่ทั้งวัน ไม่ได้ขยับไปไหนเลย ก็ให้สันนิษฐานกันไว้ก่อนเลยว่า น่าจะเป็นอาการบวมน้ำที่มาจากการไม่ได้ขยับตัวนั่นแหละ ซึ่งแก้ได้ด้วยการออกกำลังกาย

ยังไงทางเราก็หวังว่าทุกคนจะหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองกันให้มากขึ้น อย่ามัวทำแต่งานจนลืมหันมาใส่ใจนายของตัวเองซึ่งนั่นก็คือ ตัวของเรานี่แหละ เกิดป่วยขึ้นมาไม่คุ้มกันน้า รักษาสุขภาพกันด้วยจ้า 




ขอบคุณข้อมูลจาก : พบแพทย์ และ Balavi.com