ปันโปรชวนคุย | ปัญหาโลกแตกของคนถูกสุนัขไล่ เจอบ่อยแบบนี้ จัดการยังไงดี ?

[promotion]

เหมือนจะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่เอาจริงๆ แล้วมันใหญ่มาก !  กับปัญหาโลกแตกของคนที่เลี้ยงและไม่เลี้ยงสุนัขทั้งหลาย อย่างเวลาที่น้องเห่า หรือไล่กัดคนอื่น บอกเลยว่ากระทบกับคนเลี้ยงไม่พอ ยังส่งผลกระทบกับคนรอบข้างอีกด้วยนะ อย่างหมาที่มีเจ้าของอันนี้ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ เพราะสามารถฝึกหรือสอนกันได้ แต่ถ้าเป็นบรรดาน้องหมาเจ้าถิ่นที่อยู่ตามข้างทางล่ะ ใครเจอฤทธิ์ของน้องเข้าไป เห็นที่จะต้องผวาไปอีกยาว

เราเลยไปตามล่าหาคำตอบมาให้เพื่อนๆ ไม่ว่าจะศึกษาจากคำแนะนำที่มีคนใช้แล้วได้ผล รวมไปถึงศึกษานิสัยพื้นฐานของน้องหมา ก็คืออีกนิดจะเล่นบทบาทสมมุติตัวเองเป็นหมาแล้ว เอาเป็นว่า เราลองมาทำความเข้าใจ และเรียนรู้นิสัยของหมากันให้มากกว่าเดิมกันดีกว่า เพราะบางทีการที่หมาเห่า รวมถึงไล่เราแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าเราเผลอไปทำอะไรบางอย่าง ที่ดันไปกระทบกับการรับรู้ในแง่ลบของน้องหมากันอยู่ก็ได้ !








สำรวจนิสัยพื้นฐานของน้องหมา
จริงๆ แล้วน้องดุทุกตัวเลยหรือเปล่า ?

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการจัดการเวลาที่เจอหมาไล่ หรือเห่าใส่ อันดับแรกเราควรมาทำความรู้จักนิสัยพื้นฐานของน้องหมากันก่อน เพราะเอาจริงๆ หมาทุกตัวก็มีภาษารวมถึงการรับรู้เหมือนกันกับคนนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเราไม่ใช่หมาไง เราเลยไม่รู้ว่าพวกมันคิดอะไรกันอยู่ ซึ่งจากข้อมูลที่พี่โปรได้ไปทำการสรรหามา สามารถสรุปนิสัยพื้นฐานของน้องหมาเป็นข้อๆ ได้ตามนี้

น้องหมามักจะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมีคนเผชิญหน้า จ้องมอง หรือเอื้อมมืออยู่บริเวณเหนือหัวของพวกมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนแปลกหน้า

น้องหมาจะไม่พอใจเมื่อถูกต้อนให้เข้ามุม บังคับ หรือถูกจับขังไว้ในห้อง ในทางกลับกันพวกมันชอบการอยู่ในพื้นที่โล่งๆ ได้มองสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวมากกว่า

น้องหมาเป็นสัตว์ที่มักจะเปลี่ยนความคิดได้อย่างรวดเร็ว จนคนเลี้ยงอย่างเราอาจจะเดาใจไม่ถูก อย่างก่อนหน้านี้อาจจะเคยชอบให้ทำอะไรแบบนึง ตัดภาพมาอีกทีอาจจะกลายเป็นไม่ชอบไปแล้วก็ได้

น้องหมาเป็นสัตว์ที่มีความตื่นตระหนกเหมือนกันกับคน โดยเฉพาะเวลาที่ต้องออกไปข้างนอก หรือต้องอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งปฏิกริยาที่น้องมักจะแสดงออกเหมือนกันแทบจะทุกตัวก็คือ การฉี่

น้องหมาแต่ละตัวมีความคิดไม่เหมือนกัน อย่าพยายามตัดสินหมาทุกตัวว่ามีนิสัยเหมือนกัน แต่ต้องดูด้วยว่าน้องถูกสอน หรืออยู่ในสภาพสังคมแบบไหนมาก่อน อย่างสุนัขบางตัวเฟรนลี่มากกก ไม่เห่าคนแปลกหน้าเลย แม้กระทั่งโจร5555 ก็คือทุกอย่างต้องอาศัยการฝึกฝนนะ ถึงแม้ว่านิสัยของน้องเราอาจจะฝึกฝนกันไม่ได้ แต่เรื่องเซนส์ รวมถึงความสามารถอะไรพวกนี้เราสามารถฝึกกันได้นะ

และที่สำคัญเลยก็คือ น้องหมาเป็นสัตว์ที่มี Reaction เหมือนกันกับคนนี่แหละ  ซึ่งการ Reaction ของน้อง ก็มีด้วยกันหลายแบบ
อย่างบางทีเราเห็นน้องมีโปรโมชั่นกระโดดพุ่งตัวเข้าใส่ อาจจะทำให้เราเข้าใจไปว่าน้องไม่พอใจ หรืออยากจะไล่เราออกไปให้พ้นๆ หน้าหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วการที่น้องกระโดดพุ่งเข้าใส่เราแบบนั้น มันสามารถแปลได้ว่าน้องกำลังดีใจอยู่ก็ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตัดสินน้องในแง่ลบกันไปซะก่อนน้า






เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน
 









แล้ว Reaction ของน้องหมาล่ะ มีอะไรบ้าง ?

การขุด : จริงๆ แล้วพฤติกรรมที่น้องหมาแสดงออกแบบนี้ อาจจะมาจากสัญชาตญาณดั้งเดิม อย่างบางสายพันธุ์ โดยเฉพาะพันธุ์ที่นิยมใช้ในการล่าสัตว์ ก็อาจจะมีแนวโน้มในการขุดคุ้ยมากกว่าพันธุ์อื่นๆ หนึ่งเลยก็คือ มันเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานอยู่แล้ว หรือบางทีการขุดนั้นอาจจะมาจากสาเหตุอื่นๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น อยากหนีออกจากพื้นที่ที่มันอยู่, เบื่อหน่าย, มีความวิตกกังวล หรือกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ หรือมีอะไรอยู่ใต้พื้นดินนั้นจริงๆ เป็นต้น

หงอย หรือเซื่องซึม : เป็นพฤติกรรมที่โดยส่วนตัวสมัยที่เราเลี้ยงหมา เราเจอบ่อยมากกกก เวลาที่กำลังจะออกไปนอกบ้าน หรือจะต้องเข้าห้องนอนตอนกลางคืน น้องหมาของเราก็รู้สึกอยากตามมาด้วย อยากไปอยู่ด้วย บางตัวก็จะมีการส่งเสียงร้องหงิงๆ หรือบางตัวอาจจะแสดงความหมดอาลัยตายอยาก ทิ้งตัวลงกับพื้นไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าเจ้าของจะกลับมา

ฉี่ ! : เป็น Reaction ที่พบได้บ่อยเวลาที่น้องหมาต้องไปอยู่ในสังคมใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน การฉี่สามารถแสดงออกได้ว่า มันกำลังอยู่ในความรู้สึกวิตกกังวล เกร็ง และกลัว หรือในสุนัขที่มีอายุมากบางตัว การที่น้องฉี่ออกมา อาจไม่ได้แปลว่ากลัวหรืออะไรนะ แต่สุนัขที่อายุมากส่วนใหญ่มักจะควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ก็เลยอาจจะมีการฉี่ออกมาได้

ร้องหงิงๆ : อันนี้ต่อจากหงอยเลยจ่ะ เพราะการร้องหงิงๆ ของน้องสามารถแปลความหมายเป็นภาษามนุษย์เราได้ว่า น้องกำลังจัด promotion ออดอ้อน อ้อนวอน ขอร้อง มุๆมิๆ ซึ่งก็เป็นไปได้หลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นขอร้องให้พาไปด้วย ขอร้องให้เล่นด้วย หรือขออาหาร ทำนองนี้ก็ได้เหมือนกัน

กระโดดใส่ : หมาบางตัวที่ตัวใหญ่มาก เวลากระโดดเข้าใส่ทีนึกว่าน้องจะกัดเรา แต่จริงๆ แล้ว การกระโดดใส่สามารถแปลความหมายได้หลายอย่างนับตั้งแต่ การดีใจ, ชวนให้เล่นด้วย รวมถึงต้องการที่จะจู่โจมเราก็ได้

ไล่, กัด และเห่า : มาเป็นคอมโบเซ็ตกันไปเลยจ่ะแม่ ขอไล่ตามเลเวลความรุนแรงไปก็แล้วกัน เริ่มจากการไล่ กัด เห่า แบบขบๆ (มักจะพบในสุนัขที่อายุยังน้อย) อันนี้อาจจะแปลความหมายได้ว่า มันชวนเล่น หรือฟันเพิ่งขึ้น อารมณ์หมั่นเขี้ยวนั่นแหละ หรือบางทีอาจจะเป็นปฏิกริยาการป้องกันตัว เพราะน้องยังเด็กมาก อาจจะยังไม่ไว้ใจเจ้าของเท่าไหร่

แต่ถ้าสุนัขตัวนั้นอยู่ในวัยที่โตแล้ว แล้วเป็นสุนัขในความดูแลของเราเอง อันนี้มองได้หลายเคส แต่หลักๆ เรามองว่ามันน่าจะชวนเล่น หรือเรียกร้องความสนใจจากเรามากกว่า แต่มันก็มีนะที่น้องเค้ากัดเจ้าของแบบจริงจัง อันนี้อาจจะมาจากการเลี้ยงดูแบบโหดๆ เจ้าของชอบตี ตวาด จนส่งผลทำให้น้องเครียด

ส่วนถ้าสุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขจรจัด แบบที่ใครหลายคนเคยมีประสบการณ์ถูกเห่าใส่ วิ่งไล่ รวมถึงไล่กัด การแสดงออกของสุนัขแบบนี้ ให้คิดเอาไว้ก่อนเลยว่าเราอาจจะทำให้มันกลัว จนมันต้องลุกขึ้นมาเห่า ไล่ หรือกัดเพื่อป้องกันตัวเอง คือเอาง่ายๆ มันมองว่าเราเป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจสำหรับมัน กลัวว่าเราจะไปทำร้าย หรือมันอาจจะเคยมีประสบการณ์เลวร้ายมาก่อน จนทำให้ไม่อยากไว้วางใจใครก็ได้









ถ้าเป็นหมาเราเองอาจจะจัดการได้
แต่ถ้าเจอหมาข้างทางเห่า + ไล่กัดเมื่อไหร่ จัดการยังไงดีอ่ะแม่...


ก่อนอื่นขอออกตัวแทนน้องหมาก่อนว่า หมาข้างทางทุกตัวไม่ได้ดุ และด้วยเหตุผลต่างๆ นานาที่บอกไปข้างต้น ก็ช่วยตอกย้ำอีกทีนึงว่า หมาทุกตัวมี promotions ไม่เหมือนกัน บางตัวอาจจะเป็นมิตรกับเรา แต่ไม่เป็นมิตรกับคนอื่นก็ได้ ซึ่งถ้าหากเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ถูกหมาเห่า + ไล่บ่อยๆ จะต้องจัดการยังไง

ซึ่งคำตอบของคำถามนี้มีเยอะมากทุกคน มีตั้งแต่ไม้อ่อน ไปจนถึงไม้แข็ง  ไม้อ่อนที่ว่าก็ได้แก่ ตีซี้ไปเลยจ่ะ   ยังไงสักวันหมาตัวนั้นจะต้องยอมใจอ่อนให้เรา ซึ่งการตีซี้ที่ว่านี้มีอะไรบ้าง วิธีที่ง่ายและเบสิคที่สุดก็คือ หาของกินไปให้มัน ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง (เลือกเฉพาะเนื้อๆ ไปให้มันนะ เพราะกระดูกไม่ดีกับสุนัข) หรือพวกตับย่างนี่แหละของโปรดของน้องหมาเค้าเลยล่ะ สมมุติเดินผ่านแล้วเจอหมากำลังตั้งท่าจะจัดเรา ก็ให้ล่อด้วยตับย่าง โยนๆ ไปให้มัน แต่ต้องบอกก่อนว่าต้องทำต่อเนื่องทุกวันๆ จนกว่ามันจะสนิทใจกับเรานะ ซึ่งเราเชื่อว่าเดี๋ยวมันก็ใจอ่อนให้กับเราเอง

แต่ถ้าไม้อ่อนใช้ไม่ได้ผล งานนี้ต้องงัดไม้แข็งเข้าสู้ ! ซึ่งไม้แข็งที่ว่าก็คือไม้นี่แหละจ่ะ (หลายคนใช้อุปกรณ์อย่างไม้เซลฟี่ในการช่วยแก้ปัญหานี้) ก็คือพกไว้ขู่ แต่ไม่ถึงกับต้องลงไม้ลงมือจริงๆ นะ เหมือนขู่ให้มันกลัวเราเฉยๆ ในเมื่อผูกมิตรกันดีๆ ไม่ได้ ก็ต้องขู่กันด้วยไม้นี่แหละ น่าจะเวิร์คสุด

อย่างบางคนเคยบอกเอาไว้เหมือนกันว่า เป็นเพราะเราไปสบตาหมาก่อน หมามันถึงเกิดความระแวงและไม่ไว้ใจเรา เลยมีคำแนะนำให้อย่าไปยุ่ง สมมุติว่าต้องเดินผ่านก็ต้องห้ามสบตา ไม่พูดคุย ไม่สัมผัส คือทำยังไงก็ได้ให้นิ่งและสงบที่สุด (หมายถึงเรานะไม่ใช่หมา) แล้วเดินผ่านไป แบบนี้หมาก็จะเลิกหาเรื่องเรากันแล้ว





อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>> ปัญหาโลกแตกของคนถูกสุนัขไล่







แต่ต้องบอกก่อนว่า ถ้าเราเจอหมาเป็นฝูง สิ่งที่หมาเหล่านี้เกรงกลัวมากที่สุดก็คือ จ่าฝูง  คือถ้าเราผูกมิตรกับจ่าฝูงได้ หรือทำให้จ่าฝูงเกรงกลัวได้ ทุกอย่างจะง่ายขึ้นเยอะมาก แต่การเจอกับสถานการณ์นี้บ่อยๆ จนกระทบกับชีวิตประจำวัน รวมถึงคนรอบข้างมากๆ คือพยายามสุดๆ แล้วหมาก็ยังไล่อยู่ดี เราแนะนำให้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาพาน้องหมาเหล่านั้นไปดูแลอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมกับพวกมันต่อไปน่าจะดีกว่า เพราะสมมุติเกิดเจอคนไม่ดี วางยาเบื่อหรือทำร้ายมันขึ้นมา เผลอๆ อาจจะทำให้หมาดุขึ้นกว่าเดิมก็ได้นะ

ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ว่านี้ก็ได้แก่ องค์กรพิทักษ์สัตว์, หน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ที่ตนเองอาศัย, เพจ ป้าจุ๊ บ้านพักสี่ขาเพื่อหมาจร, มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ, บ้านสงเคราะห์สัตว์ป้าเจียม และอีกหลายๆ หน่วยงานเลย ลองค้นหาพิกัดใกล้ตัวกันดูนะทุกคน


" ถ้าสมมุติว่าเราดันโชคร้าย เจอน้องหมาจรกัดเข้าให้ อันนี้ต้องทำยังไงต่อ ? "


ก่อนอื่นเช็กให้ชัวร์ก่อนว่าสุนัขที่กัดเรามีเจ้าของไหม เพราะถ้ามีเจ้าของ ให้เราไปเอาผิดกับเจ้าของกันได้เลย  แนะนำว่าไม่ควรลงไม้ลงมือ ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเจอข้อหาทารุณกรรมสัตว์แทน ถ้าเป็นสุนัขข้างทาง หรือที่เราเรียกกันว่าสุนัขจรจัด สมมุติว่าเราถูกกัดเข้า ให้ไปเรียกร้องหรือเอาผิดกับทางองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่นั้นๆ กันได้เลย เพราะศาลปกครองสูงสุดยกให้ องค์การบริหารส่วนตำบล เป็นเจ้าของสุนัขจรจัดในพื้นที่ของตน ตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 67 และ 68 ซึ่งเราสามารถแจ้งได้ตั้งแต่กรณีที่ถูกหมาทำร้าย รวมถึงในกรณีที่หมากัดหรือทำลายทรัพย์สินมีค่าจนเสียหายก็ได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าการทำความเข้าใจกับสุนัขเป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ ขนาดคนเป็นเจ้าของเอง กว่าจะฝึก กว่าจะสอนทักษะอะไรได้สักอย่าง นับว่าเป็นอะไรที่ยากมาก นับประสาอะไรกับเหล่าหมาข้างทางทั้งหลายที่ไม่มีแม้กระทั่งคนดูแล ยังไงสเต็ปแรกเราแนะนำให้ผูกมิตรกับน้องกันก่อนนะ อย่าเพิ่งลงไม้ลงมือเวลาที่เจอน้องเห่าหรือไล่

หรือถ้าเราเจอน้องหมาที่น่าสงสาร อยากให้น้องได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้สามารถติดต่อหน่วยงานพิทักษ์สัตว์ที่เราแปะไว้ให้ด้านบนนี้กันได้ หรือใครอยากจะร่วมทำบุญค่าอาหารน้องๆ ก็ได้เหมือนกัน จะได้ช่วยเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนให้น้องๆ ได้มีพื้นที่อาศัย รวมถึงมีอาหารกินกันน้า


ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : academyanimal.com, psychologytoday.com, thesprucepets.com และ pantip.com