หน้าแรก Sritown.com

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดทริปเที่ยว 5 วัน 4 คืน ฉลองเส้นทางบินใหม่ ปล่อยใจไปอยู่น่าน กับ AirAsia  (อ่าน 1540 ครั้ง)

promotion

  • โจรสลัดจอมลุย / โคโนฮะกลุ่ม 7
  • *
  • กระทู้: 2499



ได้เวลาหลีกหนีความวุ่นวาย
ไปพักผ่อนหย่อนใจที่จังหวัดน่าน
โดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้
เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ ‘ห้ามพลาด’ ของน่านเชียวนะ!



ไปสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบที่จังหวัดน่าน กับบรรยากาศสุดฟินในช่วงปลายปี ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่สวยที่สุด ไหนๆ ก็ไปเที่ยวมาทั้งที พี่ โปร เองก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศมาฝากเพื่อนๆ กัน แถมทางเราก็ยังไม่หวง แจกแพลนเที่ยวแบบจุใจให้ไปเลยฟรีๆ บอกเลยว่าตลอด 5 วัน 4 คืนนี้ ทางเราได้ ปล่อยใจไปอยู่น่าน แบบชนิดที่ว่าไปแล้ว ต้องหาเวลากลับมาเยือนอีกครั้งแน่นอน!







Ladies and Gentlemen
We are now descending to Nan Airport
Please return to your seat and fasten your seat belts.





| Day 1 : ตัวเมืองน่าน - ดอยเสมอดาว

สำหรับทริปการเดินทางของปันโปรสู่จังหวัดน่านในครั้งนี้ เราได้เลือกเดินทางกับ AirAsia กับเส้นทางบินใหม่ ที่จะพาเราบินตรงสู่จังหวัดน่าน โดยที่ผู้โดยสารสามารถเลือกบินจากสนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้ อย่างปันโปรก็คือเลือกบินจากสนามบินสุวรรณภูมิเพราะอยู่ใกล้บ้านพอดี จากปกติที่ต้องนั่งรถยาวๆ ไปดอนเมือง ตอนนี้คือประหยัดเวลาขึ้นเยอะ!







ส่วนเที่ยวบินของเราก็จะเป็นเที่ยวบิน FD 4312 รอบเวลา 10.00 น. บอกเลยว่าตรงต่อเวลามากๆ ใช้เวลาบินไม่นานก็พาเรามาลงจอดกันที่สนามบินน่านเป็นที่เรียบร้อย นอกจากเวลาเครื่องออกจะเป๊ะแล้ว พี่ๆ พนักงานบนเครื่องก็คือน่ารัก ประทับใจสุดๆ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีของทริปนี้มาก!








เหนือสิ่งอื่นใด กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง เครื่องลงจอดปุ๊บ รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย ทางเราก็มุ่งหน้าไปหาข้าวกลางวันทานกันต่อที่ ร้านวันดา ร้านอาหารพื้นเมือง ที่นอกจากรสชาติของอาหารจะ 10 10 10 แล้ว ราคาอาหารก็คือย่อมเยามาก อิ่มสบายท้อง แถมยังสบายเงินในกระเป๋าอีกด้วย (โชคดีที่อิ่มก่อน ไม่อย่างงั้นพี่ โปรโมชั่น อาจจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพักใหญ่เลยแหละ แหะๆ)







สำหรับแพลนวันแรก เราตั้งใจจะไปค้างคืนกันที่ ดอยเสมอดาว ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน แต่ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าขึ้นดอย ปันโปรขอแวะไหว้พระกันที่ วัดพระธาตุเขาน้อย ทางผ่านกันสักหน่อย เติมแต้มบุญกันนิด เผื่อปีหน้าจะได้ปังๆ กับเค้าบ้าง

และหลังจากเราไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางของเราในคืนนี้อย่าง ดอยเสมอดาว บอกเลยว่าเดินทางเหนื่อยมาทั้งวัน ขอแวะพักผ่อนสูดอากาศดีบนดอยกันให้ชุ่มฉ่ำปอดสักหน่อยยย








สวยขนาดนี้ คืนนี้หลับฝันดีแล้วเรา




| Day 2 : มุ่งหน้าสกาด - จิบกาแฟ & นอนพักที่โฮมสเตย์

หลังจากพักผ่อนกันเต็มอิ่มบนดอยเสมอดาว ตื่นเช้ามาก็ได้เวลาเคลื่อนทัพเข้าสู่เป้าหมายต่อไป สำหรับที่พักของเราในคืนนี้นั้นมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ สกาดโฮมสเตย์ แต่ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปที่พักกัน พี่ promotion ขอพาทุกคนไปเติมแต้มบุญกันสักหน่อยที่ วัดภูเก็ต (ที่ไม่ต้องไปไกลถึงภูเก็ต ก็ไปวัดภูเก็ตได้) บอกเลยว่าที่นี่ถือว่าเป็นวัดที่มีความโดดเด่นเรื่องของจุดชมวิว ก็คือไปทำบุญกันเสร็จ ก็แวะแชะภาพเก๋ๆ กับวิวสวยๆ กันต่อ ที่เดียวครบ ได้สต็อกภาพลงยาวยันปีหน้าเลยจ้า




หลังจากเติมแต้มบุญกันเสร็จเรียบร้อย เราก็พากันไปที่จุดหมายต่อไปที่ตั้งอยู่ในอำเภอสกาดเช่นเดียวกัน ต้องบอกเลยว่าทีเด็ดเค้ายังเหลืออีกเพียบ! สำหรับคอกาแฟต้องห้ามพลาดกับร้านกาแฟริมนาอย่าง ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ดื่มด่ำกับบรรยากาศของท้องทุ่งนาสีเขียว จิบกาแฟรสชาติดี พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวไทลื้อแบบใกล้ชิด และนอกจากร้านกาแฟบ้านไทลื้อแห่งนี้แล้ว ยังมีร้าน ลำดวนผ้าทอ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน แวะจิบกาแฟชิวๆ กันเสร็จก็สามารถหาซื้อผ้าทอคุณภาพดีจากที่นี่ต่อกันได้เลย





ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน ทางเราก็ขอรีบมุ่งหน้าไปเช็กอินที่ สกาดโฮมสเตย์ ที่พักที่ตั้งอยู่บนดอยสกาด อำเภอปัว ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ว่าใครมาต้องเช็กอิน! เพราะนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศบนดอยที่แท้ทรูแล้ว สกาดโฮมสเตย์ยังมีคาเฟ่น่ารักๆ ตั้งอยู่ในตัวที่พักเลยอีกด้วย

แถมใครที่กลัวว่าถนนหนทางจะโอเคไหม ทางขึ้นดอยจะชันหรือเปล่า ปันโปรไปพิสูจน์มาให้แล้วว่าถนนหนทางสามารถขับรถขึ้นไปได้ไม่ลำบาก เส้นทางเค้าลาดยางอย่างดี มีจุดสังเกตบอกชัดเจน ดังนั้นไม่ต้องกลัว บอกเลยว่าคุ้มกับการมาแน่นอน!






สำหรับกิจกรรมที่จะให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ทำกันนั้น บอกเลยว่ามีหลากหลายมาก จะเดินชมวิว ถ่ายรูป เช็กอินลงโซเชียล หรือใครมาถึงไว สามารถแวะเก็บกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปไร่ชากันต่อได้ ขับรถไม่ไกลแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ส่วนใครเดินทางมาเหนื่อยๆ ไม่อยากออกไปไหน ก็สามารถแวะจิบชาอุ่นๆ นั่งมองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันได้ที่บริเวณคาเฟ่ของสกาดโฮมสเตย์กันได้เลย บอกเลยฟินสุดอะไรสุด!






อาหารการกินคือครบ ไม่ต้องกลัวหิวกันเลยจ้า





เรื่องราวการ ท่องเที่ยวดอยช้าง
กับการตามหากาแฟที่ลือชื่อ


 







| Day 3 : ออกเดินทางไป อ. บ่อเกลือ - ตกเย็นก็แวะแคมปิ้งกันที่สะปัน

สำหรับแพลนวันที่ 3 นี้ ขอเอาใจสายกินลมชมวิวโดยเฉพาะ เพราะแพลนคือแน่นมาก! เที่ยวชิวๆ นอนบนดอยกันมา 2 วันแล้ว วันนี้บอกเลยว่าฟินกันต่อแบบยาวๆ ให้สมกับที่มาน่านกันสักหน่อย~




ประเดิมกันด้วย ถนนหมายเลข 3 อีกหนึ่ง unseen ที่มองเผินๆ แล้วอาจจะดูเหมือนถนนที่มีเส้นทางโค้งไปวนมาทั่วไป แต่ลองมองกันดูดีๆ สิ สังเกตกันไหมว่าทางโค้งของถนนนั้นมีลักษณะคล้ายกับเลข 3 จริงๆ ใครจะถ่ายรูปอัปลงไอจี อย่าลืมถ่ายให้เห็นโค้งเลข 3 นี้กันด้วยล่ะ ถ่ายรูปอัปโซเชียลเสร็จปุ๊บ ก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่จุดเช็กอินต่อไปกันต่อ Go Go.




ประเดิมกันด้วย ถนนหมายเลข 3 อีกหนึ่ง unseen ที่มองเผินๆ แล้วอาจจะดูเหมือนถนนที่มีเส้นทางโค้งไปวนมาทั่วไป แต่ลองมองกันดูดีๆ สิ สังเกตกันไหมว่าทางโค้งของถนนนั้นมีลักษณะคล้ายกับเลข 3 จริงๆ ใครจะถ่ายรูปอัปลงไอจี อย่าลืมถ่ายให้เห็นโค้งเลข 3 นี้กันด้วยล่ะ ถ่ายรูปอัปโซเชียลเสร็จปุ๊บ ก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่จุดเช็กอินต่อไปกันต่อ Go Go.







ส่วนใครที่เบื่อวิวทิวทัศน์ภูเขากับม่านหมอกกันแล้ว ต่อไปเดี๋ยวปันโปรจะพาทุกคนไปเที่ยวน้ำตกและเดินเล่นในหมู่บ้านกันต่อบ้าง แต่ระหว่างทางที่จะไป เราก็ได้ขับผ่านอีกหนึ่งโค้งที่สวยงามไม่แพ้ถนนหมายเลข 3 และจุดชมวิวที่ผ่านมาเลย กับ โค้งพับผ้า ที่สามารถมองจากด้านบนลงไปเห็นโค้งถนนท่ามกลางวิวธรรมชาติที่สวยงามและแปลกตา โดยเฉพาะยิ่งถ้าไปช่วงหน้าหนาวบอกเลยอากาศกำลังเย็นสบาย แดดไม่ร้อนมาก สามารถยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนจะมุ่งหน้าไปเที่ยวน้ำตกกันต่อได้เลย







มาจ่ะ สำหรับใครที่ไม่เคยสัมผัสบรรยากาศน้ำตกท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย บอกเลยว่าที่ น้ำตกสะปัน แห่งนี้คือเหมาะมาก ไม่ว่าเราจะมาตอนไหน ก็สามารถเห็นภาพของน้ำตกที่ไหลลงมากระทบโขดหินสวยงามแบบนี้ได้ตลอด ไม่ว่าจะหน้าหนาว หน้าฝน หรือหน้าร้อน รับรองว่าสวยไม่แพ้กันแน่นอน

แต่สถานที่สวยงามแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจอดรถแล้วเราจะสามารถเห็นกันได้เลยนะ แต่เราจะต้องทำการเดินเท้าต่อมาประมาณ 20 นาที เราก็จะถึงธารน้ำตกตามภาพที่เห็นนี้กันแล้ว และนอกจากน้ำตกสายนี้แล้ว บริเวณพื้นที่แห่งนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพิ่มเติมอีกด้วย หากใครมีเวลาเหลือเฟือยาวๆ สามารถทำการเดินสำรวจพื้นที่แห่งนี้กันต่อได้เลย

แต่แนะนำว่าหากใครที่ต้องการเดินป่ากันต่อ อย่าลืมเตรียมตัวมาให้พร้อม เสื้อผ้า รองเท้า แนะนำว่าให้เลือกที่สวมใส่ได้สบาย ไม่อึดอัด สัมภาระก็นำมาเท่าที่จำเป็นจะได้ไม่กลายเป็นภาระในการเดินศึกษาธรรมชาติของเรากันนะ







หากเชียงใหม่มีหมู่บ้านแม่กำปอง สำหรับน่านนี่ต้อง หมู่บ้านสะปัน นี่แหละถึงจะสูสีกันหน่อย ไหนๆ ก็แวะน้ำตกกันให้พอชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำกันแล้ว เป้าหมายต่อไปได้เวลาไปเยี่ยมชมบรรยากาศพื้นเมืองกันบ้าง

สำหรับหมู่บ้านสะปันแห่งนี้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา ขนาบด้วยลำธารสายเล็กที่ไหลผ่านเป็นแนวยาวไล่ไป มีจำนวนบ้านไม่มาก หากใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศอันแท้จริงของหมู่บ้านอันเงียบสงบ ได้ทำความรู้จักและพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนในท้องถิ่น บอกเลยว่าที่นี่เหมาะมาก ขนาดปันโปรใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานก็ตกหลุมรักขึ้นมาซะแล้ว






ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าเข้าสู่ที่พัก ก็ขอแวะเติมพลังกันสักกรุบที่ หยุดเวลา cafe ให้พอได้ยืดแข้งยืดขากันบ้าง สำหรับคาเฟ่แห่งนี้บอกเลยว่านักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว การได้หาที่นั่งพักพร้อมกับดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ คือเลิศเลอไม่มีใครเกินที่สุดแล้ว

และหลังจากนั่งพักให้พอหายเหนื่อยกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเข้าที่พัก สำหรับวันนี้ปันโปรขอพามาเปลี่ยนบรรยากาศมาแคมปิ้งกันบ้างดีกว่าที่ ภูหม้อแคมป์ปิ้ง ที่พักวิวสวย บรรยากาศร่มรื่น ใครอยากกางเต็นท์บอกเลยว่าพื้นที่คือเหมาะมาก แถมราคาไม่แพง หรือใครอยากพักในห้องส่วนตัว ที่นี่เค้าก็มีให้เลือก แถมที่ตั้งคือแยกสัดส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่กระจุกอยู่ในพื้นที่เดียว ให้ความเป็นส่วนตัว ก่อนนอนใครอยากจะดูดาว หรือจะรีบตื่นเช้ามาดูวิวหมอกก็คือดือ!







วิวหลักล้านแบบนี้ ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองนะจ๊ะ



| Day 4 : เต็มอิ่มกับบรรยากาศนอกเมืองมานาน ก็ถึงเวลาสำรวจตัวเมืองกันบ้าง

น่าน ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าเที่ยวทั้งนอกเมืองและในเมือง ถึงแม้จะมีบรรยากาศและกลิ่นอายที่ต่างกัน แต่ก็ถือว่าทั้งในและนอกเมืองนั้นมีเสน่ห์ที่รอให้ทุกคนไปค้นพบอยู่มากมาย และไหนๆ เราก็ขึ้นดอยเป็นว่าเล่นกันมาถึง 3 วัน พอใกล้จะถึงวันกลับ ปันโปรเลยขอพาทุกคนมาเที่ยวเล่นในตัวเมืองกันดูบ้าง ไหนขอสำรวจสักหน่อยซิ ว่าบรรยากาศตัวเมืองของน่านนั้นจะน่าเที่ยวสักแค่ไหน







ห่างเหินจากการเข้าวัดมาตั้ง 1 วัน ลงจากดอยมาทั้งที งานนี้ขอจัดหนักจัดเต็มกันสักหน่อย ประเดิมกันที่วัดแรกอย่าง วัดภูมินทร์ ที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นอยู่ที่การตกแต่งภายในตัววัดที่เน้นไปที่สีทองและจิตรกรรมฝาผนัง ที่เชื่อว่าน่าจะโดนใจสาย Hipster กันถ้วนหน้า ยิ่งมาตั้งแต่ช่วงสายๆ เป็นต้นไป เราจะได้เห็นสีทองของตัววัดสะท้อนเข้ากับแสงของแดดที่ตกกระทบพอดิบ พอดี แทบไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์รับรองว่าสวยงามแน่นอน!









และนอกจากตัววัดจะโดดเด่นแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่บอกไปแล้วนั่นก็คือจิตรกรรมฝาผนัง อันนี้บอกเลยว่าสวยงามและน่าศึกษาเอามากๆ สำหรับใครที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์บอกเลยว่าห้ามพลาด เดินเล่นเพลินๆ ดูจิตรกรรมฝาผนังตัววัดไปเรื่อยๆ สงบจิตสงบใจได้ดีสุดๆ




ไปจ้าา ได้เวลาทำ Mission กันต่อ บอกเลยว่าเกาะนามิก็เกาะนามิเถอะ เจอ ซุ้มลีลาวดี แห่งนี้เข้าไปมีหนาวแน่นอน! บอกเลยที่น่านแห่งนี้ก็มีของดีนะ แถมน้อยคนมากๆ ที่จะรู้ว่ามีสถานที่แห่งนี้อยู่ สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวที่ซุ้มลีลาวดี ก็สามารถขับรถมากันได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน แล้วตามหามุมนี้กันได้เลย

ที่สำคัญคือเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ตัวต้นไม้จะให้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป บางช่วงก็จะมีใบไม้ผลิสีเขียวให้สดชื่น แต่ถ้าเป็นช่วงหลังจากใบไม้ร่วงหมดต้นไปแล้วก็จะให้ฟิลเหงาๆ ดี แต่รับรองว่าสวยทุกช่วง สายถ่ายภาพคือได้รูปกลับไปเพียบแน่นอน!








เรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมไปแล้วเวลาที่เดินทางมาเที่ยวภาคเหนือ เพราะปันโปรชอบไปเที่ยวกาดตอนกลางคืนมากกกก นอกจากอาหารจะเป็นเป้าหมายอันดับ 1 แล้ว ปันโปรอยากเดินดูบรรยากาศมากว่าจะแตกต่างจากกาดอื่นๆ ที่เคยไปมามากน้อยแค่ไหน เลยถือโอกาสพาทุกคนไปเที่ยว กาดข่วงเมืองน่าน หาอาหารพื้นเมืองทานกัน ยิ่งได้เห็นภาพผู้คนนั่งทานอาหารกันเป็นระบบระเบียบ บอกเลยว่าเจริญอาหารขึ้นเยอะ ไอเลิฟ









บรรยากาศในห้องพักดี๊ดีขนาดนี้ บอกเลยทางเราพร้อมทิ้งตัว!



| Day 5 : ปล่อยใจทิ้งไว้กับน่าน ถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาใหม่


สำหรับทริปการเดินทางมาน่านครั้งนี้ บอกเลยว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับทางปันโปรเอามากๆ เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยด้วยที่ปันโปรมาเที่ยวที่น่าน แถมได้เพื่อนเดินทางอย่าง AirAsia มาประเดิมทริปการเดินทางครั้งนี้ไปด้วยกัน พอมาประติดประต่อรวมกันกับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ รวมไปถึงในตัวเมือง คือสามารถสร้างความประทับใจให้กับทางเราแบบไม่รู้ลืมจริงๆ




แต่ต้องสารภาพตามตรงว่าตลอด 5 วัน 4 คืนที่ผ่านมานั้น ยังไม่พอ เพราะปันโปรเชื่อว่าน่านยังมีอะไรให้เราได้ไปสำรวจอีกเพียบ! สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากมาเที่ยวที่น่านแบบปันโปร ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินกับ AirAsia กันได้ ที่สำคัญคือตอนนี้เราสามารถเลือกบินได้จากสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ แถมทาง AirAsia เค้าก็มีเที่ยวบินมาน่านให้เลือกถึง 2 เที่ยวบินต่อวัน บอกเลยว่าสะดวกสุดๆ อยากมาต้องได้มา หน้าหนาวนี้ใครยังไม่มีแพลนไปไหนมา ปล่อยใจไปอยู่น่าน ด้วยกันน้าา



ตรงเวลา ใส่ใจความปลอดภัยเหมือนเดิม