5 สมาชิกแห่ง BIGBANG เพิ่งจะได้บรรลุการต่อสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด YG Entertainment รวมระยะเวลาอีก 5 ปี

YG ต้นสังกัดเปิดเผยเมื่อ 7 เมษายนกล่าว "ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ตั้งแต่พวกเขาเป็นศิลปินฝึกหัด สมาชิกบิ๊กแบงและ YG พวกเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน พวกเรารู้สึกขอบคุณพวกเขามากที่พวกเขายังคงเชื่อมันในบริษัทที่เดบิวพวกเขา เหนือสิ่งอื่นใดเราดีใจมากๆที่เราจะได้อยู่กับแฟนๆไปอีกนานในนามของไอดอลกรุ๊ป บิ๊กแบง (BIGBANG)"

เมื่อวันที่ 4 เมษายน บิ๊กแบง ได้เข้าร่วมรายการ MBC 'Come to Play' ในขณะที่รายการได้มีการพูดคุยในประเด็นเรื่องความโชคร้ายที่ปกติแล้วช่วงเวลาที่ไอดอลกรุ๊ปชื่อดังต่างๆจะมีปัญหากันไม่ว่าจะเป็นระหว่างสมาชิกด้วยกันเองหรือต้นสังกัด จนทำให้เป็นเหตุผลไปสู่การแยกวงหรือการลาออกนั้น จะอยู่ในช่วงเวลาการเดบิวครบรอบ 5 ปีพอดี

ในขณะที่ทางด้านบิ๊กแบงนั้นปีนี้พวกเขาก็ได้เดบิวมาเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งในบางครั้งก็มีข่าวลือซุบซิบในเรื่องนี้เข้ามาด้วยเช่นกัน แต่ในความจริงแล้วการที่ไม่เคยมีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยระหว่างสมาชิกด้วยกันเองหรือไม่ว่าจะเป็นกับทางต้นสังกัดก็ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่างที่พิสูจน์ได้ถึงความเชื่อมั่นต่อกันและกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากบิ๊กแบงจะได้ทำกิจกรรมในแบบกลุ่มแล้ว จีดรากอน แทยัง ซึงริ ก็ยังมีงานเพลงเดี่ยวของพวกเขาเองอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ท็อปนั้นก็มีผลงานละครและภาพยนตร์จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในมาดของนักแสดง ส่วนแดซองนั้นเขาก็สามารถโลดแล่นในวงการรายการบันเทิงรวมถึงเขาก็กำลังอยู่ในช่วงการเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองอีกด้วย

ถึงแม้ว่าในช่วงหลายยุคที่ผ่านมาจะมีไอดอลที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก แต่การที่บิ๊กแบงสามารถทำงานในมาดของไอดอลกลุ่มรวมไปถึงงานเพลงเดี่ยวได้ในเวลาพร้อมๆกันนั้นก็นับเป็นสิ่งที่ช่วงผลักดันทำให้พวกเขาโดดเด่นเป็นอย่างมาก การที่สมาชิกได้ประพันธ์ทำนองและเนื้อเพลงด้วยตนเองก็ทำให้บิ๊กแบงก้าวเกินคำว่าสมาชิกไอดอลสู่การเป็นศิลปินตัวจริง พวกเขานับเป็นดรีมทีมที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกทั้ง 5 คน ซึ่งสามารถสร้างความนิยมได้ทั้งในมาดของไอดอลกรุ๊ปรวมถึงงานเดี่ยวของพวกเขาอย่างถ้วนหน้า

อนึ่ง BIGBANG เตรียมวางจำหน่ายอัลบั้มเพลงดับเบิ้ลไตเติ้ล 'STUPID LIAR' และ 'LOVE SONG' ในวันที่ 8 เมษายนนี้ พร้อมคัมแบ็ครายการ SBS 'Ingygayo' ในวันที่ 10 เมษายน 2554