ในที่สุดก็มีผลงานภาพยนตร์สไตล์ Material Arts ออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันอีกแล้ว กับผู้กำกับมากฝีมือจาก สหมงคลฟิล์ม ปรัชญา ปิ่นแก้ว กับภาพยนตร์โปรเจ็คท์ยักษ์เรื่อง “The Kick” ซึ่งครั้งนี้นำซูเปอร์สตาร์ของไทยอย่าง “จีจ้า ญาณิน” และ “หม่ำ จ๊กม๊ก” โคจรมาพบกับซูเปอร์สตาร์จากฝั่งแดนกิมจิ “แจฮยอน”, “จีวอน”, “แทจู” และ “กยองซุค” ร่วมประชันบทบาทศิลปะการต่อสู้กัน มาดูกันสิว่าแต่ละคนมีบทบาทอะไรบ้างในภาพยนตร์เรื่องนี้
คำถาม: แสดงเป็นอะไร คาแรคเตอร์แบบไหนกันบ้างคะกับภาพยนตร์เรื่องนี้?
จีจ้า: สำหรับจ้าในเรื่องจะรับบทเป็น หว่าหวา ค่ะ เป็นหลานพี่หม่ำค่ะ
หม่ำ: ส่วนผมเป็นลุงครับ (ทั้งห้องแถลงข่าวหัวเราะกันครืน)
แจฮยอน: ผมรับบทเป็นพ่อครับ เป็นแชมป์เทควันโดที่ชนะการแข่งขันมาแล้วทั่วประเทศ
จี วอน: สวัสดีค่ะ ฉันรักคุณ (พูดภาษาไทย) รับบทเป็นแม่ค่ะ ในอดีตเป็นนักกีฬาเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิค ในปัจจุบันเปิดร้านอาหารเกาหลีอยู่ แต่ไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดาๆนะคะเพราะมีการใช้ศิลปะเทควันโดเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วย
คำถาม: สำหรับภาพยนตร์ Material Arts เรื่องแรก มีความแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆยังไงบ้าง ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ?
แจ ฮยอน: ถือได้ว่าเรื่องนี้เป็นหนังแอ๊คชั่นเรื่องแรก เพราะเรื่องก่อนๆหน้านั้นถึงแม้จะมีฉากแอ๊คชั่นบ้างแต่ก็ไม่เต็มรูปแบบเท่า เรื่องนี้ รู้สึกหนักใจบ้างนิดหน่อย โดยปกติแล้วผู้ชายเกาหลีทุกคนจะเคยเล่นเทควันโดมาแล้วแต่ผมไม่ได้ฝึกมานาน แล้ว ก่อนที่จะเริ่มการถ่ายทำภาพยนตร์ก็ไปฝึกซ้อมมาก่อนประมาณ 3 เดือน
จี วอน: เป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่นเรื่องแรกของฉันเหมือนกันค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับศิลปะป้องกันตัวอย่างเทควันโด เมื่อก่อนนี้เคยเข้าใจว่าเทควันโดเป็นศิลปะเพื่อการต่อสู้เท่านั้น แต่พอได้มาสัมผัสจริงๆถึงได้รู้ว่าต้องใช้จิตใจ ฝึกจิตใจ ทุกครั้งที่ได้ปล่อยหมัดหรือเตะออกไปจะรู้สึกผ่อนคลายจิตใจ อยากให้ทุกคนมีโอกาสได้เล่นเทควันโดและรักเทควันโดค่ะ (ยิ้ม) ปกติแล้วฉันจะเต้นบัลเล่ต์เป็นงานอดิเรก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะได้แสดงภาพยนตร์ที่ได้ใช้บัลเล่ต์นะคะ
คำถาม: รู้สึกยังไงบ้างคะได้มาร่วมงานกับทางฝั่งเกาหลี?
หม่ำ: รวมๆแล้วก็รู้สึกดีใจครับ ดีใจมาก ในเรื่องจะเล่นเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ตอนอยู่เมืองไทยเวลามีปัญหาก็จะคอยช่วยเหลือกัน
คำถาม: แล้ว จีจ้า ล่ะค่ะ ต้องมาเล่นเทควันโดปะทะกับต้นตำรับอย่างเกาหลีรู้สึกเกร็งบ้างมั้ย?
จี จ้า: เหนื่อยค่ะ เหนื่อยต่อเนื่องมากตั้งแต่เรื่อง จั๊กกะแล๋น มาถึงเรื่องนี้ก็ยังแสดงกับพี่หม่ำอยู่ (หัวเราะ) ดีใจค่ะที่มีโอกาสได้มาร่วมแสดงกับนักแสดงเก่งๆของทางเกาหลี ทำให้รู้สึกว่าคนไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น อย่างของจ้าจะเป็นในเรื่องของการแสดง การแอ๊คชั่น แต่ของทางเกาหลีเรื่องเทควันโดจะเป็นอันดับหนึ่ง จ้าก็ได้มีโอกาสเกิดมาจากเทควันโดด้วยและก็มีมวยไทย ก็คือเทควันโดเป็นพื้นฐานให้จ้าได้มวยไทยด้วยค่ะ
คำถาม: การแอ๊คชั่นในภาพยนตร์เรื่อง The Kick ของ จีจ้า ต่างกับเรื่อง ช็อคโกแลต และ ดื้อ สวย ดุ มั้ยคะ
ปรัชญา: การแอ๊คชั่นของจีจ้าจะเป็นธรรมชาติในท่าทางการเคลื่อนไหวของตัวเขาอยู่แล้ว ในภาพยนตร์บทของจีจ้าจะเป็นผู้หญิงที่รักธรรมชาติ ชอบอยู่กับป่าอยู่กับพวกสัตว์ต่างๆ ก็จะมีศิลปะใหม่ๆเพิ่มเข้ามาบ้างผสมผสานให้ดูสวยงาม ออกมาแล้วดูน่ารักเลยทีเดียว
จากนั้นจึงเป็นการแสดงเทควันโดของ 2 คู่ซี้ “แทจู” และ “กยองซุค” ซึ่งต้องบอกว่าเป็นน้ำจิ้มให้กับภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี เพราะสร้างความฮือฮาและน่าทึ่งในความสามารถทางด้านเทควันโดของทั้งสองคนได้ อย่างมากมายทั่วทั้งห้องแถลงข่าว
คำถาม: ช่วยพูดถึงคาแรคเตอร์ของแต่ละคนหน่อยค่ะ
ปรัชญา: สำหรับ ควานฮุน และ อีรุ จะรับบทเป็นตัวร้าย ควานฮุน รับบทเป็น ซอคดู เขาเคยทำงานอยู่หน่วยระเบิดของที่ประเทศเกาหลีมาก่อน ส่วนในเรื่องจะเล่นเป็นตัวผู้ร้าย ส่วน อีรุ จะเป็นเลขาของ ซอคดู ดูเป็นคนเซ็กซี่ แต่จริงๆแล้ว...มโหดมาก แทจู จะมีสายเลือดเทควันโดอยู่แล้ว ในบทพ่ออยากให้เขาสืบทอดเทควันโดต่อ ครอบครัวนี้ย้ายมาอยู่ในประเทศไทยเปิดร้านอาหารเกาหลี แม่จะเป็นคนทำอาหารเกาหลี ส่วนพ่อจะเปิดโรงเรียนสอนเทควันโด ซึ่งพ่อก็อยากให้ลูกๆทุกคนสืบทอดความเป็นเทควันโดต่อไป แต่ตัว แทจู ในเรื่องอยากจะเป็นศิลปินมากกว่า
คำถาม: มาถามเจ้าตัวเล็กกันบ้างดีกว่า น้องยูโรพูดภาษาเกาหลียากมั้ย แล้วในเรื่องได้แสดงฉากแอ๊คชั่นด้วยรึเปล่าคะ
ยูโร: ไม่ยากครับ มีฉากแอ๊คชั่นด้วย การแสดงก็ไม่ยากครับ
คำถาม: การแสดงแอ๊คชั่นใน The Kick แตกต่างจากเทควันโดที่ได้แข่งขันยังไง แตกต่างกันมากมั้ยคะ
แท จู: ปกติการเล่นเทควันโดแบบที่เป็นกีฬาก็จะอยู่ในวงฝึกซ้อม รวมไปถึงการฝึกเพื่อโชว์ให้คนอื่นได้ดู แต่เนื่องจากว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแอ๊คชั่นก็มีการสู้จริง เจ็บจริง เพราะฉะนั้นผมก็ได้แผลมาบ้างเหมือนกัน
กยองซุค: เหมือนกันค่ะ การฝึกซ้อมเทควันโดก็จะไม่มีการสู้จริง แต่ในการแสดงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เตะคนจริงๆ มีเตะสตั๊นท์แมนคนนึงกลัวว่าจะหัวแตกเหมือนกัน แต่ก็ดีแล้วจะได้โดนแค่ครั้งเดียวค่ะ
อีรุ: เวลาที่ฝึกเทควันโดจริงๆจะมีแต่การแสดงท่าทางอย่างเดียว แต่สำหรับภาพยนตร์จะต้องซ้อมจนกว่าจะได้ภาพที่สวยงามหรือว่าภาพที่ดีที่สุด รู้สึกว่าต้องใช้พลังมาก สำหรับฉันนอกจากแอ๊คชั่นแล้วก็จะเป็นในเรื่องของการแสดงสีหน้าซึ่งเป็นอีก เรื่องที่ยาก ในบทจะต้องเซ็กซี่ก็จะมีต้องใส่ส้นสูงเตะด้วย
ควานฮุน: จริงๆประสบการณ์ของผมคือเคยเป็นทหารมาก่อนครับ จะไม่ใช่ในเรื่องวัตถุระเบิดอย่างเดียวแต่ว่าจะเป็นหลายๆอย่างที่คนทั่วไป ไม่ได้ทำ เช่น กระโดดลงมาจากฟ้า, ดำน้ำลึก หรือว่าจะปีนที่สูง มีหลายอย่างมากที่ผมได้เคยลองทำ เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการรับบทแอ๊คชั่นให้กับภาพยนตร์ เรื่องนี้
ได้รู้เรื่องคร่าวๆจากภาพยนตร์เรื่อง The Kick กันไปแล้ว ต้องบอกได้ว่าน่าติดตามจริงๆกับนักแสดงคุณภาพทุกท่าน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะจะมีแต่ฉากแอ๊คชั่นเท่านั้น แต่ก็จะมีความสนุกสนานเฮฮาร่วมด้วยอย่างแน่นอน รวมไปถึงข้อคิดต่างๆที่คอยสอดแทรกอยู่ตลอดเวลาตามสไตล์การกำกับของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว เอาเป็นว่าทราบวันฉายเมื่อไหร่ทางเราจะรีบนำข่าวมาฝากเพื่อนๆ ทันทีแน่นอนค่ะ
ข่าว / รูป / บทสัมภาษณ์ :
[email protected]